Page 43 -
P. 43

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว






            การวิเคราะห์จุดคุ้มทุน

                    เป็นการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของต้นทุนสินค้า จำานวนสินค้าที่ขาย และกำาไรจากการขายสินค้าเพื่อดูว่าธุรกิจ
            จะต้องผลิตและขายสินค้าเป็นจำานวนเท่าใดจึงจะคุ้มทุนพอดี เรียกว่าจุดคุ้มทุนหรือ Breakeven point โดยส่วนที่เลยจุด
            หรือระดับของรายได้ดังกล่าวคือผลกำาไรที่ธุรกิจจะได้  ธุรกิจอาจใช้จุดคุ้มทุนเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจเกี่ยวกับ
            การกำาหนดราคาขายปริมาณขาย และกำาไรได้ ในการคำานวณหาจุดคุ้มทุนมีปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ราคาขายต้นทุน

            ผันแปร ต้นทุนคงที่ จำานวนสินค้าที่ขาย และสัดส่วนของการขายสินค้า ทั้งนี้สามารถวิเคราะห์ได้หลายลักษณะในที่นี้
            จะกล่าวถึง การวิเคราะห์จุดคุ้มทุนโดยใช้สมการ
                                                   ยอดขาย = ต้นทุนคงที่ + ต้นทุนผันแปร + กำาไรสุทธิ

            ดังนั้น
                                                 ปริมาณ ณ จุดคุ้มทุน (หน่วย) =  ต้นทุนคงที่ + กำาไรสุทธิ
                                                                      ราคาขาย – ต้นทุนผันแปร
                                        ยอดขาย ณ จุดคุ้มทุน (บาท) = ปริมาณ ณ จุดคุ้มทุน x ราคาขายต่อหน่วย



            ตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ไอศกรีมมันสำาปะหลัง ขนาดถ้วย 55 กรัม มีต้นทุนคงที่ 36,000 บาท
            ต้นทุนผันแปรเท่ากับ 9 บาทต่อถ้วย และมีราคาขาย 29 บาทต่อถ้วย
            การคำานวณหาจุดคุ้มทุนโดยใช้สมการ ดังนี้

                                                 ปริมาณ ณ จุดคุ้มทุน (หน่วย) =  36,000 + 0 = 1,800 ถ้วย
                                                                          29 – 9
                                                  ยอดขาย ณ จุดคุ้มทุน (บาท) = 1,800 x 29  = 52,200 บาท


            การตลาดพื้นฐาน

                    ในการวางแผนกลยุทธ์การตลาดที่นิยมใช้โดยมาก  จะใช้ส่วนประสมทางการตลาด  4P  หรือที่เรียกว่า  marketing
            mix  ประกอบด้วย  ผลิตภัณฑ์  (Product)  การจัดจำาหน่าย  (Place)  การกำาหนดราคา  (Price)  การส่งเสริมการตลาด
            (Promotion) ซึ่งเป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่สำาคัญในการดำาเนินงานการตลาด โดยทุกปัจจัยมีความเกี่ยวข้องกัน

            และแต่ละตัวมีความสำาคัญเท่ากัน  ขึ้นอยู่กับแต่ธุรกิจจะให้ความสำาคัญกับปัจจัยใดมากกว่ากัน  เพื่อให้สามารถวางแผน
            ในแต่ละส่วนให้เข้ากัน และตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย


                    1.�ผลิตภัณฑ์�(Product) คือ สินค้าหรือบริการที่ธุรกิจจะเสนอขายให้กับลูกค้า โดยแนวทางในการกำาหนด
            ตัวผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมจะต้องดูว่า  กลุ่มเป้าหมายต้องการอะไร  และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้  โดยทั่วไป

            กลยุทธ์ในการกำาหนดตัวผลิตภัณฑ์มี 2 รูปแบบ ได้แก่
                    1.1  กลยุทธ์การสร้างความแตกต่าง  ไม่ว่าจะเป็นตัวผลิตภัณฑ์  บริการ  หรือช่องทางการขาย  โดยการสร้าง
            ความแตกต่างนั้น จะต้องเป็นสิ่งที่ลูกค้าสามารถรับรู้และตระหนักได้ว่าแตกต่างกันและมีความพึงพอใจกับความต่างนี้

            เช่น บรรจุภัณฑ์ที่ง่ายต่อการเปิด ผลิตภัณฑ์ที่ทดแทนด้วยน้ำาตาลธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์ไร้กลูเตน ซึ่งปัจจุบันจะเห็นได้ว่า
            ผู้บริโภคให้ความสนใจและพิถีพิถันในการเลือกซื้อสินค้ามากกว่าแต่ก่อน โดยกลุ่มเป้าหมายของกลยุทธ์นี้มักจะเป็น
            ลูกค้าที่มีความต้องการเฉพาะและมีการแข่งขันไม่สูงนัก
                    1.2  กลยุทธ์ด้านการตั้งราคา  ธุรกิจเน้นการแข่งขันที่ราคาเป็นหลัก  โดยการยอมลดคุณภาพในบางด้าน
            ที่ไม่สำาคัญลงไป เช่น ลดต้นทุนการผลิต หรือใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพด้อยกว่า ซึ่งส่วนมากธุรกิจรายย่อยจะไม่สามารถแข่งขัน

            ด้านต้นทุนกับธุรกิจรายใหญ่ได้ เนื่องจากปริมาณการผลิตและต้นทุนการผลิตที่ถูกกว่ารายย่อย ดังนั้นธุรกิจรายย่อย
            ควรเลือกกลยุทธ์การสร้างความแตกต่างจะเหมาะสมกว่า




            42          มันสำ�ปะหลังไทยกินได้�สร้างรายได้ให้เกษตรกร
                        โครงการแปรรูปมันสำาปะหลังและผลิตภัณฑ์สู่อุตสาหกรรมอาหารเพื่อยกระดับรายได้เกษตรกรชุมชน
   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48