Page 44 -
P. 44
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
2.�การจัดจำ�หน่าย�(Place) เป็นวิธีในการกระจายสินค้าสู่ลูกค้า โดยจะต้องพิจารณาว่าผลิตภัณฑ์ที่จะขายคืออะไร
ใครคือกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และนำาเสนอขายอย่างไร ในการเลือกรูปแบบการจัดจำาหน่าย สิ่งที่ทุกธุรกิจต้องพิจารณา
แบ่งได้ 2 ส่วน คือ ช่องทางการจำาหน่ายสินค้า (เช่น ขายสินค้าโดยตรงให้กับผู้บริโภค หรือผ่านคนกลาง) และการกระจาย
ตัวสินค้า โดยธุรกิจต้องตระหนักเสมอว่า วิธีการกระจายสินค้าหรือการขนส่ง (เช่น ทางรถ ทางเรือ ทางรถไฟ) ก็คือต้นทุน
ส่วนหนึ่งของสินค้า ดังนั้นทุกธุรกิจควรเลือกวิธีที่มีค่าใช้จ่ายในการขนส่งต่ำา ปลอดภัยและสินค้าไปถึงลูกค้าได้ทันเวลา
ปัจจัยที่ส่งผลในการเลือกรูปแบบการจัดจำาหน่าย เช่น ทำาเลที่ตั้งของร้านค้า การจัดเก็บรักษา คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์
หรือลักษณะของบริการ
3.�การกำ�หนดราคา�(Price) เป็นอีกปัจจัยสำาคัญที่ธุรกิจจะต้องให้ความสำาคัญมาก ในการกำาหนดราคา
ที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ที่จะนำาไปเสนอขาย ธุรกิจจะต้องตั้งเป้าหมายว่าจะตั้งราคาสินค้าเพื่อวัตถุประสงค์อะไร ซึ่งก่อน
จะกำาหนดวัตถุประสงค์ธุรกิจจะต้องคำานึงถึง ต้นทุนสินค้าและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มั่นใจว่าราคาที่ตั้งครอบคลุม
ต้นทุนได้ การตั้งราคาของคู่แข่ง และที่สำาคัญราคาที่จะตั้งต้องได้รับการยอมรับจากตลาดเป้าหมาย นั้นหมายความว่า
คุณค่าของผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภครับรู้สูงกว่าราคาของสินค้าที่ผู้บริโภคยินยอมจ่าย กลยุทธ์ราคาเป็นเครื่องมือที่คู่แข่งขัน
นิยมนำามาใช้ เนื่องจากให้ผลรวดเร็วกว่ากลยุทธ์อื่น เช่น การลดราคาสินค้า อีกสิ่งหนึ่งที่ธุรกิจควรคำานึงถึงคือ ราคา
เป็นหนึ่งในภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ที่สำาคัญ ซึ่งผลิตภัณฑ์บางตัว ถ้าตั้งราคาต่ำาเกินไปจะทำาให้ผู้บริโภคมองว่า เป็นสินค้า
มีคุณภาพต่ำา หรือไม่มั่นใจที่จะตัดสินใจซื้อสินค้านั้น วิธีการกำาหนดราคาในเบื้องต้นมี 3 รูปแบบ ดังนี้
3.1 กำาหนดราคาตามลูกค้า คือการกำาหนดราคาตามที่ประมาณการว่าลูกค้าจะเต็มใจจ่าย ซึ่งราคาที่ได้
อาจมาจากการทำาสำารวจ วิจัยตลาด หรือแบบสอบถาม
3.2 กำาหนดราคาตามตลาด คือการกำาหนดราคาตามคู่แข่งในตลาด ซึ่งอาจจะสูงหรือต่ำามากจนกระทบเป้าหมาย
การสร้างกำาไรของธุรกิจ ดังนั้นหากธุรกิจคิดที่จะกำาหนดราคาตามตลาด อาจจะต้องมีการเปรียบเทียบกับต้นทุนสินค้า
เพื่อให้สามารถวางแผนกำาไรของธุรกิจได้
3.3 กำาหนดราคาตามต้นทุนและกำาไร เป็นการคำานวณต้นทุนของธุรกิจว่าเป็นเท่าใด แล้วบวกค่าขนส่ง ค่าแรงงาน
และกำาไรที่ธุรกิจต้องการ จะได้เป็นราคาขายของสินค้านั้น แต่หากราคาที่ได้มาสูงมาก ธุรกิจอาจจะต้องใช้กลยุทธ์
การส่งเสริมการตลาดเพื่อช่วยประชาสัมพันธ์หรือส่งเสริมภาพลักษณ์ให้เข้ากับราคา
4.�การส่งเสริมการตลาด�(Promotion) คือ กระบวนการติดต่อสื่อสารไปยังตลาดเป้าหมาย เพื่อบอกให้
ลูกค้าทราบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เสนอขาย เช่น การขายโดยใช้พนักงาน (Personal selling) การโฆษณาในสื่อต่าง ๆ
(Advertising) หรือการทำากิจกรรมส่งเสริมการขาย (Sale promotion) ที่ทำาให้คนมาซื้อสินค้าของเรา เช่น การแสดงสินค้า
การแจกคูปองหรือของแถม การแจกของตัวอย่างให้ทดลองใช้ การใช้แสตมป์เพื่อแลกสินค้า การชิงโชคแจกรางวัลต่าง ๆ
การทำาการลดราคาประจำาปี ในส่วนธุรกิจขนาดย่อม การโฆษณาอาจจะเป็นสิ่งที่เกินความจำาเป็นเพราะมีค่าใช้จ่ายที่สูง
ในการเลือกวิธีการส่งเสริมทางตลาดจะต้องคำานึงถึงตัวผลิตภัณฑ์ ตลาดเป้าหมาย และค่าใช้จ่ายเป็นหลัก ในปัจจุบัน
เข้าสู่ยุคดิจิตอล สื่อทางอินเตอร์เน็ตมีบทบาทต่อการดำาเนินชีวิตและการบริโภคของผู้บริโภคมากขึ้น โดยข้อดีของการใช้สื่อ
ทางอินเตอร์เน็ต คือมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงนัก และสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้หลากหลาย ดังนั้นจึงเป็นอีกตัวเลือกที่ดี
สำาหรับธุรกิจขนาดย่อม
ดร. อภิชญา ลีลาวณิชกุล
มันสำ�ปะหลังไทยกินได้�สร้างรายได้ให้เกษตรกร 43
โครงการแปรรูปมันสำาปะหลังและผลิตภัณฑ์สู่อุตสาหกรรมอาหารเพื่อยกระดับรายได้เกษตรกรชุมชน