Page 110 -
P. 110

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

             104
                     โครสร้างพืช


                   2.2  spongy  parenchyma  เป็นชั้นที่อยู่ติดกับ epidermis  ด้านล่าง (lower  epidermis)    มี

            รูปร่างไม่แน่นอน  เรียงตัวกันหลวมๆ  มีช่องว่างระหว่างเซลล์จ านวนมาก  และการเรียงตัวของเซลล์ไม่
            เป็นระเบียบ

                    เซลล์มีโซฟิลล์เป็นส่วนที่มีบทบาทส าคัญในกระบวนการสังเคราะห์แสง โดยคาร์โบไฮเดรทจะถูก
            สร้างใน เซลล์มีโซฟิลล์และเคลื่อนย้ายไปสู่ส่วนต่างๆโดยท่อล าเลียงอาหาร (phloem)


                   ส าหรับใบของพืชน้ า โครงสร้างภายในจะแตกต่างออกไป  โดยมีโซฟิลล์ของใบด้านที่ติดกับผิวน้ า
            จะมีช่องว่างระหว่าเซลล์ใหญ่มากจนกลายเป็นช่องว่างอากาศ (air space) ขนาดใหญ่  ท าหน้าที่เก็บก๊าซ

            ไว้ภายในและมีปากใบจะอยู่ที่ epidermis ด้านบนใบ และเนื่องจากแผ่นใบบางจึงมี sclereid แทรกอยู่ใน
            ชั้นมีโซฟิลล์ เรียกว่า trichrosclereid เพื่อช่วยให้ใบแข็งแรงไม่ฉีกขาด (ภาพที่ 5.23)  ในขณะที่ใบพืชที่ขึ้น

            ในที่แล้งหรือมีความชื้นน้อย มักมีขนาดของใบที่เล็กลง หรือเปลี่ยนแปลงไปเป็นหนาม  มีโซฟิลล์จะหนา

            และประกอบไปด้วยเซลล์พวก palisade parenchyma    ส่วนพืชวงศ์หญ้าจะไม่แบ่งออกเป็น palisade
            และ spongy  parenchyma    แต่เซลล์มีโซฟิลล์นี้จะมีรูปร่างค่อนข้างเป็นแบบเดียวกันหมดและมักมี

            sclerenchyma  อยู่ด้วย  ซึ่งโดยมากจะเกิดล้อมรอบกลุ่มท่อล าเลียงไว้เรียกว่า bundle  sheath  ยกเว้น
            bundle  sheath  ของพืช C   ที่ bundle  sheath  เป็นเซลล์พาเรนไคมาที่มีคลอโรพลาสท าให้บริเวณ
                                   4
            ดังกล่าว สามารถมีการสังเคราะห์แสงได้ (ภาพที่ 5.24)

                   3.  เส้นใบ หรือ กลุ่มท่อล าเลียง (vein หรือ vascular tissue) มีอยู่ทั่วไปในใบ ประกอบด้วย

            ท่อน้ า (xylem)  เป็นเซลล์มีผนังหนาและเรียงตัวแน่น อยู่ทางด้านบนติดกับ upper  epidermis  ส่วนท่อ

            อาหาร (phloem)  เป็นเซลล์ที่มีผนังบางกว่าและมีขนาดเล็กอยู่ด้านล่างติดกับ lower  epidermis  ท่อ
            ล าเลียงของใบจะติดต่อกับท่อล าเลียงของเส้นกลางใบซึ่งติดต่อกับกิ่งและล าต้น

                   ในพืชวงศ์หญ้า นอกจากที่มีโซฟิลล์จะไม่เปลี่ยนแปลงไปเป็น palisade   และ spongy

            parenchyma    แต่ยังคงสภาพเป็น mesophyll  parenchyma  อยู่ในชั้นที่ถัดมาจาก epidermis  และ

            bulliform  cell    ส่วนเส้นใบหรือท่อล าเลียงจะถูกล้อมรอบด้วย bundle  sheath  ที่หนา 1  หรือ 2  ชั้น
            bundle sheath นี้จะไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการสังเคราะห์แสงของพืชที่เป็นพืช C   (พืช C  หมายถึงพืช
                                                                              4
                                                                                     3
            ที่มีการสังเคราะห์แสงโดยวัฏจักร C  หรือ Calvin-Benson  pathway  เช่น ข้าว ถั่วเหลือง ข้าวโอ๊ต และ
                                         3
            ข้าวสาลี  ส่วนพืช C  เช่น อ้อย ผักโขม และข้าวโพด มีการสังเคราะห์แสงโดยวัฏจักร C  หรือ Hatch-
                                                                                    4
                             4
            Slack pathway) กล่าวคือ พืช C  จะใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO ) ในการสังเคราะห์แสงได้อย่างมี
                                                                    2
                                       4
            ประสิทธิภาพมากกว่าพืช C   เนื่องจากมีส่วนของ bundle sheath ชั้นนอกที่เป็นเซลล์ขนาดใหญ่และมี
                                   3



            รศ. ดร. ลิลลี่  กาวีต๊ะ
   105   106   107   108   109   110   111   112   113   114   115