Page 156 -
P. 156

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                                                                                                      2-23




                         ในชวงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติฉบับที่ 8 ไดมีนโยบายและเหตุการณที่สําคัญ
                  ตามลําดับเวลาดังนี้
                         วันที่ 29 ตุลาคม 2519 นายธานินร กรัยวิเชียร นายกรัฐมนตรี ไดแถลงนโยบายรัฐบาลคณะที่ 39

                  ตอ สภาปฏิรูปการปกครองแผนดิน มีขอความที่เกี่ยวกับปาไมในนโยบายขอ 9 ดังนี้
                                “ การบํารุงและปองกันรักษาปาไมของชาติเปนเรื่องที่จะไดกวดขันเปนพิเศษ โดยเฉพาะ
                  อยางยิ่งปาไมซึ่งเปนตนน้ําลําธาร ในขณะเดียวกันจะเรงรัดการปลูกสรางสวนปาใหมากยิ่งขึ้น” (สํานักงาน
                  เลขาธิการสภาผูแทนราษฎร, 2540: 219)


                         วันที่  10    สิงหาคม  2520   คณะรัฐมนตรีมีมติเรื่องการดําเนินการปฎิรูปที่ดินในเขตปาสงวน
                  แหงชาติที่เสื่อมสภาพแลว ครม. ไดลงมติเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณเสนอ คือ
                                1. ใหกรมปาไมดําเนินการเพิกถอนปาสงวนแหงชาติ รวม 6 ปา รวมเนื้อที่ประมาณ

                  740,000 ไร
                                2.  ใหสํานักงานการปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เขาไปดําเนินการปฎิรูปที่ดินในพื้นที่ปา
                  ดังกลาว โดยไมตองชําระคาธรรมเนียมตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 481 (พ.ศ. 2515) ออกตามความใน
                  พระราชบัญญัติปาสงวนแหงชาติ พ.ศ. 2507


                         วันที่ 10  สิงหาคม 2520  คณะรัฐมนตรีมีมติเรื่องทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการปาไม  กระทรวง
                  เกษตรและสหกรณไดรายงานวา  เจาหนาที่ปาไมไมสามารถสกัดกั้นผูบุกรุกปาสงวนแหงชาติไดเพราะตามมติ ครม.
                  เมื่อวันที่  14  กันยายน  2519 เปนเสมือนเครื่องมือสนับสนุนใหราษฎรบุกรุกทําลายปา และเปนเกราะปองกันมิให

                  เจาหนาที่ดําเนินการตามกฎหมายได  จึงขอเสนอ  ครม.  พิจารณาทบทวนและในขณะเดียวกัน  เลขาธิการ
                  นายกรัฐมนตรีไดพิจารณาเสนอความเห็นรวม  4  ประการ  มาเพื่อประกอบการพิจารณา  ครม.  พิจารณาแลวจึงให
                  กระทรวงเกษตรและสหกรณรับขอเสนอของเลขาธิการนายกรัฐมนตรีไปพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

                                ขอเสนอของเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
                                “ 1. ควรใหพิจารณายกเลิกมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2519 แตก็ควร
                  กําหนดเวลาใหมติมีผลยอนหลังไปถึงชวงเวลาที่มีการบุกรุกที่ดินปาสงวนอยางรุนแรงในชวงหลังเพื่อมิ
                  ใหเกิดความเดือดรอนแกราษฎรที่บุกรุกทํากินอยูเดิมทั้งหมด
                                2.    ควรเรงรัดใหมีการประกาศพระราชกฤษฎีกากําหนดเขตปฏิรูปที่ดินในพื้นที่ปา

                  สงวนที่หมดสภาพและเรงรัดโครงการปฏิรูปที่ดินในพื้นที่ที่ประกาศใหสามารถปฏิบัติไดรวดเร็ว  ภายใน
                  ระยะเวลาที่กําหนด       กับควรจําแนกที่ดินไมเหมาะสมออกเพื่อกันไวเปนพื้นที่ปาไมทุกเขตที่มีการ
                  ประกาศกําหนดเขตปฏิรูปที่ดิน (ไมควรนอยกวารอยละ 20 ของพื้นที่)

                                3. สนับสนุนใหมีโครงการถายภาพทางอากาศ เพื่อถายภาพพื้นที่ปาไมทั่วประเทศใน
                  มาตราสวน 1 : 15,000 เพื่อใชตรวจสอบเขตปาไมที่ถูกบุกรุกไดรวดเร็วขึ้น พรอมทั้งใหกรมปาไม
                  รวมกับกรมพัฒนาที่ดินตรวจสอบเขตปาไมและเขตที่ดินที่จําแนกแลวใหถูกตองตรงกัน เพื่อใชเปน
                  บรรทัดฐานในการวางแผนการใชที่ดินของประเทศที่ถูกสัดสวนตอไป
                                4.   ควรใหมีการสนับสนุนมาตรการปองกันการบุกรุกทําลายปาไมของชาติทั้งระยะสั้น

                  และระยะยาว ตามที่คณะกรรมการปองกันการบุกรุกทําลายปาไมไดวางมาตรการไวเพื่อใหไดผลอยางจริงจัง”
   151   152   153   154   155   156   157   158   159   160   161