Page 11 -
P. 11
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
1
บทที่ 1
ผลของดินและความเร็วการออกแรงกระท าต่อดินของเครื่องมือไถ
พรวนดิน(Tillage machinery)
1.1 สภาพแวดล้อมภายนอก (Outdoor environment)
Krutz, Thompson and Claar, 1984 เขียนหนังสือ Design of Agricultural Machinery
เนื้อหาส่วนใหญ่เขียนเกี่ยวกับศิลปะทางวิศวกรรมการออกแบบ (art in engineering design)
เครื่องจักรกลเกษตร ทั้งนี้ไม่ได้กล่าวถึงการออกแบบที่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อม
ภายนอก (outdoor environment) เป็นต้นว่า ตัวแปรสภาพของดินการเกษตรที่เปลี่ยนแปลง
ไปในแต่ละท้องถิ่น สภาพของพืชที่ถูกเก็บเกี่ยว ลักษณะของพืชหลังเก็บเกี่ยว
นอกจากนี้ในปี พ.ศ. 2539 สุรินทร์ พงศ์ศุภสมิทธิ์ เขียนไว้ในหนังสือวิศวกรรมรถไถเดิน
ตาม ว่าหลักการพิจารณาออกแบบรถไถเดินตามจะเริ่มจากสภาพแวดล้อมซึ่งประกอบด้วย
ชนิดและลักษณะการเตรียมดินปลูกพืช ความแข็งแรงของดิน อุณหภูมิ และสภาพภูมิ
ประเทศ แต่เขาไม่ได้เขียนรายละเอียดไว้ จากประสบการณ์ของผู้เขียนเคยท าการทดลอง
เครื่องมือไถดินชนิดสั่น (vibrating tillage tool) (Niyamapa and Salokhe, 2000) ผาลตัดดิน
รูปร่างตัววี (V – shaped share) การทดลองท าในสภาพแปลงนาข้าว (paddy field) ภายหลัง
จากการเก็บเกี่ยวแล้ว ดินในแปลงชนิดดินร่วนปนทราย (sandy loam) ความชื้นดิน 43.2 %
(db) ความหนาแน่นรวมสภาพแห้ง (dry bulk density) 1.03 g/cm และความต้านทานการ
3
แทงทะลุรูปกรวย (cone penetration resistance) ในดิน 467 kPa ขณะที่ดินในแปลงมี
สมบัติค่าขีดจ ากัดพลาสติก (plastic limit) 28.2 % (db) และค่าขีดจ ากัดความเหลว (liquid
limit) 38.0 % (db) จากข้อสังเกตจะเห็นว่าท าไมรถแทรกเตอร์ (tractor) ต้นก าลังที่ใช้ฉุด
ลากเครื่องมือไถดินชนิดสั่น จึงสามารถท างานในแปลงที่ดินมีความชื้นสูงถึง 43.2 %(db)
ซึ่งสูงกว่าค่าขีดจ ากัดพลาสติกและค่าขีดจ ากัดความเหลวเสียอีก ทั้งนี้เพราะว่าสภาพแปลง
นาข้าวในประเทศญี่ปุ่นขณะเก็บเกี่ยวข้าว ฟางข้าวจะถูกสับเป็นชิ้นขนาดเล็กและถูกพ่นลง
มาในแปลงเพื่อเพิ่มวัสดุอินทรีย์ (organic material) ในดิน ดังนั้นความชื้นดินในแปลงจึง