Page 73 -
P. 73

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


                  ทศวรรษที่ 1

                                                           พ.ศ. 2489                             พ.ศ. 2489
                                                           หลวงสุวรรณวาจกกสิกิจดำารงตำาแหน่งอธิการบดี   นิสิตรับปริญญาปีแรกจากผู้แทนพระองค์
                                                           เป็นตำาแหน่งข้าราชการประจำา           (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการ)




                          ชั้นล่างเป็นห้องสมุดคณะเกษตรศาสตร์ (ไม่มีบรรณารักษ์ มีแต่ภารโรง)   ปฏิบัติการของหน่วยงานราชการในเกษตรกลางบางเขนด้วย
                          และมุขชั้นล่างเป็นห้องปฐมพยาบาล บันทึกของศาสตราจารย์จรัด      นิสิตเกษตรในยุคเริ่มต้นนั้นมีระบบระเบียบมาจากสมัย
                          สุนทรสิงห์ อดีตคณบดีคณะเกษตรศาสตร์เล่าถึงเรือนเขียวไว้ว่า   เป็นวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2481 นอกจากจะเรียน
                          “พอเปิดเป็นมหาวิทยาลัยใน พ.ศ. 2486 แล้ว แทบจะว่าไม่มีอะไร  วิชาสามัญแล้ว นิสิตยังต้อง “อยู่หอ” ของมหาวิทยาลัยทุกคน
                          ที่ควรเรียกได้ว่าเป็นมหาวิทยาลัย มีแต่อาคารเก่าๆ ครึ่งอิฐครึ่งไม้  โดยเฉพาะนิสิตปีที่ 1 เพื่อจะได้มีเวลาสำาหรับทำาแปลงปลูกผักในวิชา

                          อยู่หลังเดียว ขอซื้อเขามาจากโรงเรียนเด็กที่สถานีทดลองกสิกรรม  เกษตรศิลป์ และทำางานในคอกสัตว์ หอพักนี้เมื่อเริ่มตั้งมหาวิทยาลัย
                          คลองบางกอกน้อย ตั้งชื่อกันว่า ‘เรือนเขียว’ เป็นทั้งที่อำานวยการ  มีทั้งหมด 5 หลัง สร้างเรียงกันตามแนวถนนหอ 1 จรดถนนสายหลัก
      64
                          ของมหาวิทยาลัย เป็นที่เรียน ห้องสมุด ฯลฯ ทั้งอาคารมีอยู่ไม่กี่ห้อง   ประตู 1 - โรงสูบ เป็นเรือนไม้ 2 ชั้นมีมุขยื่นออกมา ชั้นบนเป็นหอนอน
                          ไม่พอกับวิชาที่เปิดสอน ต้องวิ่งไปขอความกรุณาจากกรมเกษตร   ชั้นล่างเป็นโต๊ะทำางาน ที่เก็บเสื้อผ้า และของจิปาถะ มีห้องนำ้ารวม
       72�ปี�เกษตรศาสตร์�พิพัฒน์แผ่นดินไทย��������ทศวรรษที่�1  เช่นเดียวกัน  มิฉะนั้นคงไม่แคล้วต้องเรียนกันใต้ต้นไม้บ้างเป็นแน่”  จะมาเล่นกีฬากันบริเวณลานโล่งหน้าหอ รับประทานอาหารเย็น
                          ขอใช้บางห้องในบางตึกของกรม ซึ่งบังเอิญตั้งอยู่ในบางเขน  และโรงอาหารด้านหลัง กิจวัตรประจำาวันหลังเลิกเรียน นิสิตส่วนใหญ่



                                ส่วนตึกที่อยู่ติดกับเรือนเขียวด้านตะวันตกทางเข้าประตู 2   เวลา 17.30 - 18.00 น. และเข้าพักในหอจนถึงเวลา 4 ทุ่มจึงดับไฟ
                          ถนนงามวงศ์วานคือตึกปฏิบัติการเคมี หรือตึกเคมี เป็นตึกคอนกรีต   เข้านอนอย่างพร้อมเพรียง

                                                                                       การขาดแคลนอาหารหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นที่มาให้
                          2 ชั้น ชั้นบนเป็นห้องเรียน 2 ห้อง ชั้นล่างเป็นห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ
                          เคมี ห้องเก็บเครื่องชั่งและเคมีภัณฑ์ซึ่งมีราคาแพงเพราะอยู่ใน  องค์การสหประชาชาติ (UN) ก่อตั้งองค์การอาหารและการเกษตร
                          ภาวะสงคราม และห้องอาจารย์ ทั้งสองตึกนี้เป็นอาคารเรียนเดิม  แห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the

                          ที่รับโอนมาจากสมัยยังเป็นวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ส่วนคณาจารย์  United Nations หรือ FAO) ขึ้นในปี พ.ศ. 2488 องค์กรนี้มีเป้าหมาย
                          ที่มาสอนนิสิตโดยมากเป็นผู้ทรงคุณวุฒิจากกระทรวงเกษตราธิการ   พัฒนาสารอาหารและความมั่นคงทางอาหารให้กับประชากรโลก
                          เนื่องจากอาจารย์ไม่พอ อีกทั้งยังต้องใช้ห้องบรรยายและห้อง  ในระยะนั้นองค์กร FAO พุ่งเป้ามายังภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากเห็นว่า




                        “สมัยเด็กผมยังไม่รู้เลยว่าเกษตรคืออะไร  แต่ผมรู้ว่าอยู่บ้าน ผมช่วยพ่อเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่สารพัด  แต่ไม่รู้ว่าความหมาย
                     ของเกษตรคืออะไร
                        “คุณพระช่วงท่านก็มองแวบแรก  ไม่รู้ท่านคิดอย่างไร ท่านให้นามบัตรและส่งผมไปที่แม่โจ้ครั้งแรกพร้อมกับจอบและ
                     ขวานหนึ่งเล่ม เพื่อโค่นต้นไม้ใหญ่สามสี่คนโอบให้ได้ พอล้มต้นไม้ได้ เพื่อนก็เฮกันหมดเลย ปรากฏว่ามาดูมือวันเดียว
                     เละเลย พองหมดเลย แต่ไม่เคยท้อนะ ผ่านไปสิบห้าวัน ป่าตรงนั้นมันถูกโค่นหมด เพื่อนก็มาสะกิดว่าคุณผ่านแล้ว ถึงได้
                     เข้าไปเรียนเพราะคุณพระช่วงและบททดสอบ
                        “ผมไม่ได้ผูกพันกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เท่านั้น ผมผูกพันกับแผ่นดินไทย จิตวิญญาณของเกษตรศาสตร์คือ
                     ความรักแผ่นดิน การอยู่ข้างเกษตรกรซึ่งเป็น ‘กองทัพเศรษฐกิจ’ ไทย เป็นสิ่งสำาคัญที่ชาวเกษตรศาสตร์จะต้องยึดมั่นเสมอ”



                                                                                      ศาสตราจารย์ระพี สาคริก
                                                                  อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (พ.ศ. 2518 - 2523)
   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78