Page 204 -
P. 204
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
186 การถ่ายโอนพลังงานและการหมุนเวียนของอากาศ
(3) แถบความดันอากาศต ่าใกล้ขั้วโลก (Polar low pressure or Polar front)
เนื่องจากอากาศใกล้ผิวพื้นจากเส้นรุ้งม้า บางส่วนจะไหลไปยังขั้วโลก และถูกท าให้เบนไปทางทิศ
ตะวันออก (ด้วยแรงโคริออลิส) ท าให้เกิดลมแน่ทิศ (Prevailling westeries wind) มาจากทิศ
ตะวันตก ในทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจาก 30 องศาเหนือถึง 60 องศาเหนือ (ประมาณจากจีนไป
ไซบีเรีย) และลมแน่ทิศมาจากทิศตะวันตกไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ จากละติจูด 30 องศาใต้ถึง
ละติจูด 60 องศาใต้ เป็นลมตะวันตกและเป็นลมที่มีก าลังแรงไม่แน่นอน ขึ้นไปปะทะกับอากาศที่
เคลื่อนลงมาจากขั้วโลก การปะทะกันของสองมวลอากาศที่มีอุณหภูมิแตกต่างกันจะไม่เกิดการ
ผสมกันในทันที แต่จะแบ่งแยกกันด้วยแนวเขตปะทะที่เรียกว่า แนวปะทะขั้วโลก (Polar front)
บริเวณที่อากาศรวมตัวกัน และยกตัวสูงขึ้นจะเกิดพายุในเขตอบอุ่น อากาศบางส่วนที่ลอยขึ้นไปจะ
ไหลกลับไปยังเส้นรุ้งม้า เส้นละติจูดที่ 30 องศาเหนือและ 30 องศาใต้ เซลล์ (cell) ในละติจูดกลางนี้
เรียกว่า เฟอร์เรลเซลล์ (Ferrel Cell) ดังภาพที่ (7.18) ตามชื่อนักอุตุนิยมวิทยาชาวอเมริกันผู้เสนอ
แนวคิดนี้
60 N Ferrel cell
0
0
30 N
0
0 N
ภาพที่ 7.18 การหมุนเวียนของอากาศในวงจรเฟอร์เรล (Ferrel Cell)
(4) แถบลมตะวันออกจากขั้วโลก (Polar easteries) เมื่อพิจารณาจาก
แนวปะทะอากาศขั้วโลกไปทางขั้วโลก อากาศเย็นจากขั้วโลกที่ไหลมาจากบริเวณความดันอากาศสูง
ที่ขั้วโลก (polar high) จะถูกเบนทิศทางโดยแรงโคลริออลิสให้ไปในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (ซีก
โลกเหนือ) และตะวันออกเฉียงใต้ในซีกโลกใต้จึงเกิดแถบลมที่พัดมาจากทิศตะวันออกไปทางทิศ
ตะวันตก เรียกว่า แถบลมตะวันออกจากขั้วโลก (Polar easteries) ในฤดูหนาว อากาศเย็นจากขั้วโลก
เคลื่อนที่มาถึงเขตละติจูดกลางและเขตกึ่งเขตร้อน อากาศทั้งสองบริเวณจะปะทะกัน จึงท าให้
อากาศบางส่วนลอยสูงขึ้นและไหลกลับไปยังขั้วโลกตามแนวทิศของลมตะวันตกไปตะวันออก
(westerly) ซึ่งเกิดตอนบนของชั้นบรรยากาศ (ตอนล่างเป็น easteries) จนถึงขั้วโลกจะค่อยๆ จมลง
อย่างช้าๆ และวนกลับไปที่แนวปะทะอากาศขั้วโลก (Polar Front) ซึ่งครบวงจรโพลาร์เซลล์ (Polar
Cell) ก าลังไม่แรง (ภาพที่ 7.19)