Page 136 -
P. 136
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
การเรงปฏิกิริยาแบบวิวิธพันธุ 127
แทนคา [AM], [M] และ [A ]ในสมการ (6.42) จะได
2
1 dθ
2 2
2
N mon = k p (N ) (1 – θ) – k (N ) θ (6.46)
2
a
d
mon
mon
2 dt
dθ
ที่จุดสมดุล = 0 ดังนั้นสมการ (6.46) จะเปลี่ยนเปน
dt
2
k p (1 – θ) = k θ 2 (6.47)
d
a
แทนคา K จากสมการ (6.4) ในสมการ (6.47) จะได
K p (1 – θ) 2 = θ 2
θ
จัดรูปใหม จะได = (Kp) 1/2 (6.48)
− 1 θ
1/2
θ = (1 – θ) (Kp)
(K p) 1/2
จัดรูปใหม จะได θ = (6.49)
(K 1 + p) 1/2
สมการ (6.49) คือ ไอโซเทอรมแลงเมียรของการดูดซับของตัวถูกดูดซับที่แตกตัวไดบนพื้นผิวของ
ตัวดูดซับที่เปนของแข็ง ซึ่งแสดงใหเห็นวา เศษสวนของการปกคลุมบนพื้นผิว (θ) แปรตามรากที่
สองของความดัน (p) ของแกส A และเขียนกราฟแสดงความสัมพันธระหวาง θ และ p ในรูปที่ 6.5
2
ในการเทียบกับไอโซเทอรมแลงเมียรของการดูดซับของตัวถูกดูดซับที่แตกตัวไดบนพื้นผิว
ที่เปนของแข็งในสมการ (6.49) กับไอโซเทอรมแลงเมียรของการดูดซับของตัวถูกดูดซับที่ไมแตก
ตัว ดังสมการ (6.12) คือ
K p
θ = (6.12)
1 + K p
และเขียนกราฟแสดงความสัมพันธระหวางเศษสวนของการปกคลุมบนพื้นผิว (θ) และความดัน (p)
ของการดูดซับบนพื้นผิวของตัวถูกดูดซับที่ไมแตกตัวและตัวถูกดูดซับที่แตกตัวไดในรูปที่ 6.5 โดย
พบวา
1. เมื่อความดัน (p) สูงขึ้น จะไดเศษสวนของการปกคลุมบนพื้นผิว (θ) เพิ่มขึ้น ทั้งกรณี
ของการดูดซับของตัวถูกดูดซับที่ไมแตกตัวและแตกตัวได