Page 152 -
P. 152
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
130
เจ้าหน้าที่ส่งเสริมฯ เป็นผู้มอบให้จะไม่ได้ผล เนื่องจากเจ้าหน้าที่ส่งเสริมฯ ไม่ได้เป็นผู้รับซื้อผลผลิต ดังนั้น
การนี้จึงเป็นการยืมมือผู้รวบรวมผลผลิตในการผลักดันให้เกษตรกรเข้าสู่ระบบการผลิตแบบปลอดภัย
5.4.3 ยุทธศาสตร์การฟื้นฟูวัฒนธรรมการลงแขกหรือการเอาแรงกันของเกษตรกร
จากผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรส่วนใหญ่มาจาก 2 ส่วน คือ ค่าแรงงานซึ่ง
ส่วนใหญ่เป็นค่าแรงในการเก็บผลผลิต และค่าปัจจัยการผลิตซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าปุ๋ ยและสารเคมี เกษตรกรใน
พื้นที่ตระหนักดีว่าค่าแรงเป็นปัญหาใหญ่ สะท้อนจากคําพูดที่ว่า “...ในช่วงผลผลิตออกล้นตลาด พริกราคาตก
กก.ละ 8-10 บาท ก็ไม่เหลืออะไรเลย ค่าคนเก็บก็ตก 4-5 บาทแล้ว แถมยังหาแรงงานยากอีก... ” เพื่อความ
ยั่งยืนในการผลิตพริกของเกษตรกร จึงจําเป็นต้องลดรายจ่ายในส่วนค่าแรง โดยใช้กลุ่มในการวางแผนการ
ผลิตร่วมกัน เพื่อให้มีผลผลิตส่งตลาดทุกช่วงเวลาตามความต้องการของตลาด และส่งผลต่อการจัดการด้าน
แรงงานในการเก็บเกี่ยว ซึ่งจะต้องร่วมมือกันโดยใช้วิธีการเอาแรงกันในหมู่บ้านหรือในกลุ่มของเกษตรกร
หรือทําสัญญากับกลุ่มแรงงานในพื้นที่เพื่อเป็นการกระจายรายได้ และเป็นการจ้างในราคาที่ตํ่าลงเนื่องจาก
กลุ่มแรงงานไม่มีค่าใช้จ่ายและเสียเวลาในการเดินทาง
5.4.4 ยุทธศาสตร์การให้ความรู้
1) ในระยะเร่งด่วน กรมวิชาการเกษตรควรให้ความรู้แก่เกษตรกรว่าสารเคมีตัวใดที่ประเทศไทยและ
ประเทศผู้นําเข้าอนุญาตให้ใช้ และใช้อย่างไรจึงจะปลอดภัยกับตัวเกษตรเองและไม่ตกค้างในผลผลิต โดยใช้
สื่อ VCD ประกอบกับคู่มือ/เอกสารเผยแพร่ เนื้อหาควรจะรวมเรื่องการเพิ่มผลผลิตและปรับปรุงคุณภาพพริก
การป้ องกันกําจัดโรค-แมลงที่ได้ผลซึ่งเป็นความต้องการของเกษตรอย่างมากด้วย
นอกจากนี้กรมวิชาการเกษตรร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกําแพงแสนควรถ่ายทอด
ความรู้และการปฏิบัติที่ถูกต้องในการผลิตพริกระบบปลอดภัยให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรและเกษตรกร
ผู้นําโดยการฝึกอบรมในพื้นที่และจัดให้มีแปลงหรือศูนย์สําหรับการเรียนรู้ในพื้นที่ ซึ่งอาจใช้แปลงของ
สมาชิกกลุ่มคนใดคนหนึ่งเป็นจุดเรียนรู้ร่วมกัน สําหรับต่อจากนั้น เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรและเกษตรกร
ผู้นําถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรกรต่อโดยใช้ประโยชน์จากแปลงหรือศูนย์สําหรับเรียนรู้ในพื้นที่
2) ในระยะสั้น กรมวิชาการเกษตรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กําแพงแสน ควรเร่งวิจัยหาสารชีวภาพ
เพื่อใช้ทดแทนสารเคมีป้ องกันกําจัดโรค โดยเฉพาะโรคกุ้งแห้ง แมลง โดยเฉพาะ เพลี้ยไฟ /ไรขาว เพื่อ
แก้ปัญหาหลักในการผลิตพริกของเกษตรกร และนําองค์ความรู้แก้ปัญหาในกลุ่มนําร่องเพื่อให้มีการยอมรับ
และแพร่กระจาย ส่งผลผลต่อคุณภาพของผลผลิตที่ได้มาตรฐานสู่การส่งออก
3) ในระยะยาว ศูนย์วิจัยและพัฒนาพืชผักเขตร้อน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กําแพงแสน ควร
ร่วมกับภาควิชาโรคพืช ภาควิชากีฏวิทยา ภาควิชาพืชสวน ควรมีโปรแกรมการปรับปรุงพันธุ์พริกที่ต้านทาน
โรคโดยเฉพาะโรคกุ้งแห้ง และแมลงโดยเฉพาะเพลี้ยไฟและไรขาว และให้ขั้วพริกมีความแข็งแรงด้วย