Page 57 -
P. 57
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
33
3.2) CBD Therapy เป็นสายพันธุ์ที่มีปริมาณ THC เพียงร้อยละ
0.5 แต่มี CBD สูงถึงรร้อยละ 10 จึงเป็นสายพันธุ์ที่เหมาะสมในการผลิตเป็น
ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ เนื่องจากไม่ก่อให้เกิดอาการมึนเมา
3.3) Candida (CD-1) เป็นสายพันธุ์ที่ถูกผสมกันระหว่างพันธุ์
AC/DC กับ Harlequin มี CBD ที่สูงถึงร้อยละ 11-20 และ THC ที่ร้อยละ 0.5
จึงเป็นสายพันธุ์ที่มี CBD สูงที่สุด และTHC ต่ าที่สุดในสายพันธุ์กัญชาทาง
การแพทย์ที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบัน
3.4) Juanita La Lagrimosa เป็นสายพันธุ์ที่ผสมกันของ Reina
Madre และสายพันธุ์ Mexico/afgana เป็นสายพันธุ์ที่เหมาะส าหรับการน ามาท า
น้ ามันกัญชาสกัด ด้วยอัตราส่วน THC และ CBD แบบ 1:1 โดยมี CBD อยู่ที่ร้อย
ละ 7-8 THC อยู่ประมาณร้อยละ 6-7 เหมาะกับผู้ป่วยที่ต้องการทั้ง THC และ
CBD ในการรักษาโดยที่ไม่ต้องการผลข้างเคียงจาก THC
3.5) OG Kush CBD เป็นสายพันธุ์ที่มีปริมาณ CBD สูง สามารถ
น ามาใช้บรรเทาอาการปวด ลดความตึงเครียด วิตกกังวล อีกทั้งยังช่วยให้นอน
หลับสบาย
2.3.2 วิธีกำรปลูกกัญชำ
การปลูกกัญชาสามารถแบ่งได้ตามระบบการปลูกคือ การปลูกระบบเปิด (Outdoor) กรีนเฮาส์
และการปลูกระบบปิด (Indoor) (ดารณี ตั้งกิจเจริญพงษ์, 2562)
ก. การปลูกแบบระบบเปิดแบบกลางแจ้ง
การปลูกระบบเปิดแบบกลางแจ้งเป็นวิธีปลูกที่ลงทุนน้อยกว่าระบบปิด เป็นการปลูกอยู่กับ
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งแสงแดด อุณหภูมิ ความชื้น แมลง เชื้อโรคและศัตรูพืช ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจ
ก่อให้เกิดปัญหาให้กับต้นกัญชา โดยเฉพาะกัญชาที่น าไปท าเป็นผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ดังนั้นควรต้อง
ค านึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
- การเลือกสายพันธุ์ ควรเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะกับ สภาพอากาศ อุณหภูมิและช่วงเวลาที่จะท า
การปลูก มีความทนทานต่อแมลงหรือศัตรูพืชได้ดี เช่นการปลูกพันธุ์พื้นเมืองอย่างสายพันธุ์ไทยที่สามารถ
ทนอากาศร้อนได้ดีกว่า
- สถานที่ปลูก มีการจัดเตรียมพื้นที่ตามที่กฎหมายก าหนดและมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่
รัดกุม โดยต้องมีการเตรียมพื้นที่โดยปูผ้าพลาสติกหรือแผ่นไม้ ปรับปรุงพื้นที่บริเวณปลูกด้วยการก าจัด
วัชพืช