Page 58 -
P. 58
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
34
- ดินและวัสดุที่ใช้ปลูก ดินและวัสดุที่ใช้ปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์นั้นต้องเป็นดินที่ปลอดสารพิษ
โลหะหนัก ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าเชื้อรา ยาฆ่าหญ้า หรือสารปนเปื้อนอื่น ๆ ดินที่ใช้ควรเป็นดินร่วนซุย ระบาย
น้ า ระบายอากาศ อุ้มน้ าได้อย่างเหมาะสม มีการให้ปุ๋ยและสารอาหารที่เหมาะสม
- การเพาะเมล็ด เมื่อน าเมล็ดมาเพาะ จนเมล็ดงอกมีใบ ต้นอ่อนในระยะนี้ต้องการแสงในทันที
ดังนั้น ต้องให้แสงแก่ต้นอ่อนโดยใช้หลอดไฟที่ต่ าเป็นระยะเวลา 16-24 ชั่วโมงแล้วจึงย้ายมาปลูกในขนาด
กระถางที่เหมาะสม
การปลูกในกระถาง ในการปลูกกัญชาเพื่อน าไปท าเป็นยานั้นควรปลูกกัญชาในกระถาง เนื่องจาก
จะสามารถควบคุมธาตุอาหารในดินได้ดีกว่า และลดความเสี่ยงจากการปลูกลงดินที่รากอาจดูดซึมสาร
ปนเปื้อนในดินที่ไม่สามารถควบคุมได้
- ช่วงเวลาปลูก อากาศ อุณหภูมิและฤดูกาลที่ปลูกตามความเหมาะสมของพันธุ์ที่เลือกใช้ โดย
ควรระวังไม่ให้ช่วงเวลาที่ดอกบานเป็นช่วงหน้าฝนเพราะท าให้เกิดเชื้อราได้ นอกจากนี้เนื่องจากกัญชาเป็น
พืชที่ต้องการแสงสว่างเพียงพอ การปลูกแบบเปิดจึงอาศัยแสงจากดวงอาทิตย์เป็นหลัก ดังนั้นควรปลูกในที่
โล่งมีแสงแดดส่องสว่างเพียงพอ
- มีแหล่งน้ าที่ปลอดภัย ต้องมีแหล่งน้ าที่ไม่มีสารพิษโลหะหนักและสารเคมีตกค้าง
- แมลงและศัตรูพืช ต้นกัญชาที่ปลูกควรมีสุขภาพดีและแข็งแรงเนื่องจากถ้าต้นกัญชาอ่อนแอหรือ
เป็นโรค จะผลิตฮอร์โมนที่ท าให้แมลงมากัดกินต้นกัญชาได้ นอกจากนี้ต้องระวังการเกิดเชื้อราหรือเชื้อโรค
อื่น ๆ สิ่งที่ใช้ในการควบคุมป้องกันหรือก าจัดแมลงรวมไปถึงการใช้ปุ๋ยบ ารุงดินควรใช้สารที่เป็นธรรมชาติ
หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีเพราะต้องระวังเรื่องสารตกค้างในผลผลิตจากกัญชา
ข. การปลูกในกรีนเฮาส์
การปลูกในกรีนเฮาส์เป็นการปลูกที่ไม่ได้เป็นระบบปิดโดยสมบูรณ์ มีการควบคุมเป็นบางส่วน เช่น
มีหลังคาป้องกันฝน มีการติดตั้งพัดลมเพื่อช่วยถ่ายเทอากาศ หรือช่วยลดอุณหภูมิลง มีเครื่องควบคุม
ความชื้น แต่ใช้แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ในเวลากลางวันและใช้แสงไฟในตอนกลางคืน เพื่อลดต้นทุน
เนื่องจากต้นกัญชาต้องการแสงเพื่อให้ต้นกัญชาเติบโตและให้ผลผลิตดี กระบวนการสังเคราะห์แสงจะท า
ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ดังนั้นต้นกัญชาจะเติบโตได้เร็วกว่าการปลูกกลางแจ้งที่มีช่วงเวลาไม่มีแสงมากกว่า
นอกจากนี้การปลูกในกรีนเฮาส์ยังสามารถช่วยป้องกันแมลงมารบกวน ป้องโรคเชื้อราที่จะเกิดกับพืชได้
ดีกว่าการปลูกกลางแจ้ง แต่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการปลูกแบบกลางแจ้ง
ค. การปลูกระบบปิด (Indoor) หรือในอาคาร
- การปลูกระบบปิดคือการปลูกในห้อง อาคารหรือโรงเรือนปิด เป็นระบบที่เป็นที่นิยมใน
ต่างประเทศ เนื่องจากสามารถควบคุมสิ่งแวดล้อมได้แก่ แสง น้ า สารอาหาร ความชื้น อุณหภูมิ ในการ
ปลูกได้ รวมถึงไม่มีปัญหาเรื่องแมลง สภาพอากาศภายนอกที่มีความเปลี่ยนแปลง ท าให้การปลูกในระบบ