Page 260 -
P. 260
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
อย่างยิ่งธาตุฟอสฟอรัส จากดินเข้าสู่รากพืชแล้วส่งต่อไปยังส่วนต่างๆ ของพืชได้มากขึ้น ได้มีการทดลองการใช้ราอาร์บัสคู
ลาร์ไมคอร์ไรซากับพริกหลายชนิด จากการทดสอบของ Castillo et al. (2009) ได้ใช้ราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซา 2 สาย
พันธุ์ ได้แก่ Glomus intraradices และ G. claroideum กับพริก (Cacho de cabra) พบว่าช่วยเร่งให้ผลผลิตออกเร็ว
ผลผลิตที่สูงและมีคุณภาพมากขึ้น ในการทดลองของ Selvakumar and Thamizhiniyan (2011) พบว่าราอาร์บัสคูลาร์
ไมคอร์ไรซาช่วยส่งเสริมให้พริกเพิ่มการเจริญเติบโตและผลผลิตในสภาพดินเค็ม ส่วน Marihal et al. (2011) ได้
ทำการศึกษาการใช้ปุ๋ยชีวภาพอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซาร่วมกับการใส่ปุ๋ยเคมีในแปลง พบว่ากรรมวิธีที่มีการใส่ปุ๋ยเคมี 50%
ร่วมกับปุ๋ยชีวภาพ ให้ผลผลิตสูงที่สุด จากการทดลองต่างๆ จะเห็นได้ว่าราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซามีผลต่อพริกในเชิงบวก
ทั้งนี้อาจเป็นผลมาจากความสามารถในการช่วยดูดธาตุอาหารให้กับพืช เช่น ฟอสฟอรัส และไนโตรเจน เป็นต้น ซึ่ง
สอดคล้องกับการทดลองการดูดและการเคลื่อนย้ายฟอสเฟตของราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซา Bucking and Shachar-Hill
(2004) พบว่าฟอสเฟตถูกส่งผ่านมาจากเส้นใยภายนอกของราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซาเข้ามายังเส้นใยภายในรากแล้วส่ง
15
15
ต่อให้แก่พืช นอกจากนั้นราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซายังสามารถดูดธาตุอาหารไนโตรเจนในรูปอินทรีย์ ( N-Gly, N-Glu)
- 15
15
15
-
และอนินทรีย์ ( NH 4 NO 3, NO 3 , NH 4 ) เข้าไปในรากพืชได้อีกด้วย (Hawkins et al., 2000)
5
ดังนั้นในการทดลองนี้ จึงได้ทดสอบประสิทธิภาพของราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซาร่วมกับการใช้ปุ๋ยฟอสเฟต
เพื่อเป็นแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ยเคมี และเสริมสร้างคุณภาพดิน ทำให้ระบบการผลิตพริกเกิดความคุ้ม
ทุนทางเศรษฐกิจได้
วิธีดำเนินการ
อุปกรณ์
ตะแกรงร่อนสปอร์ (ขนาด 45 µm และ 425 µm) กล้องจุลทรรศน์ (แบบ stereo และแบบ compound)
เครื่องปั่นเหวี่ยง หม้อนึ่งความดันไอน้ำ เมล็ดพันธุ์พริกขี้หนูผลใหญ่ (พันธุ์หัวเรือ ศก.13 และจินดา ศก.1) ปุ๋ยเคมี (ยูเรีย
ไดแอมโมเนียมฟอสเฟต โพแทสเซียมคลอไรด์) ปุ๋ยคอก สารกำจัดศัตรูพืช กระถาง วัสดุปลูก สารเคมี และเครื่องแก้ว
วิธีการ
ทำการทดลอง 2 การทดลอง การทดลองที่ 1 ปลูกพริกพันธุ์หัวเรือ ศก.13 ในปี 2561 การทดลองที่ 2 ปลูกพริก
พันธุ์จินดา ศก.1 ในปี 2562 ทั้งสองการทดลองวางแผนการทดลองแบบ 2x4 factorial in Randomized Complete
Block จำนวน 3 ซ้ำ โดยมีปัจจัยที่ 1 คือราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซา ได้แก่ ไม่ใส่ และใส่ ปัจจัยที่ 2 คือระดับปุ๋ยฟอสเฟต
ได้แก่ 0% 50% 75% และ 100% ของอัตราแนะนำ (ตารางที่ 9)
เตรียมแปลงปลูกพริกในไร่เกษตรกร จังหวัดชัยภูมิ ใส่ปุ๋ยคอกอัตรา 1 ตันต่อไร่ ไถคลุกก่อนปลูก จากนั้นเก็บ
ตัวอย่างดินในแปลงวิเคราะห์สมบัติทางเคมี ได้แก่ อินทรียวัตถุ ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม ความเป็น
กรด-ด่าง และสภาพการนำไฟฟ้า เตรียมแปลงย่อยจำนวน 24 แปลง แต่ละแปลงมีขนาด กว้าง 4 เมตร ยาว 6.5 เมตร
โดยปลูก 4 แถว แถวละ 13 ต้น มีระยะระหว่างแถว 1 เมตร และระยะระหว่างต้น 0.5 เมตร โดยมีพื้นที่เก็บเกี่ยว 11
ตารางเมตร (กว้าง 2 เมตร ยาว 5.5 เมตร)
เตรียมราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซาโดยการเพิ่มปริมาณสปอร์ในกระถางที่ปลูกด้วยข้าวโพด เมื่อครบ 13 สัปดาห์
ตรวจสอบปริมาณสปอร์ของราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซาในดินปลูก แล้วนำไปผสมให้ได้ความเข้มข้นอัตรา 25 สปอร์ต่อ
กรัม เพาะเมล็ดพริกในถาดเพาะด้วยวัสดุปลูกที่นึ่งฆ่าเชื้อจำนวน 1 ต้นต่อหลุม ชุดที่ 1 ไม่ใส่ราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซา
ชุดที่ 2 ใส่อัตรา 1 กรัมต่อหลุม เมื่อต้นกล้าอายุ 30 วัน ย้ายปลูกลงแปลงตามกรรมวิธีทดลอง 1 ต้นต่อหลุม และมีการใส่
ปุ๋ยฟอสเฟตตามกรรมวิธีทดลอง ในระหว่างการทดลองมีการใช้สารกำจัดศัตรูพืชตามความเหมาะสม
การทดลองที่ 1 วัดการเจริญเติบโต โดยวัดความสูงและทรงพุ่มเมื่อพริกมีอายุ 68 วันหลังปลูกลงแปลง เก็บผลผลิต
เมื่อพริกมีอายุ 100 - 142 วัน การทดลองที่ 2 วัดการเจริญเติบโต เมื่อพริกมีอายุ 36 และ 78 วันหลังปลูกลงแปลง เก็บ
ผลผลิตเมื่อพริกมีอายุ 127-168 วัน วิเคราะห์ข้อมูลและเปรียบเทียบความแตกต่างทางสถิติโดยใช้วิธี Duncan’s
multiple range test (DMRT) ที่ระดับความเชื่อมั่น 95 เปอร์เซ็นต์
252