Page 220 -
P. 220
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
บทคัดย่อ
การศึกษาศักยภาพของแอคติโนมัยสีทที่แยกได้จากดินพื้นที่ลุ่มน้ำปาย จ. แม่ฮ่องสอน ซึ่งมีอุณหภูมิที่แตกต่างกัน
ระหว่างฤดูร้อนและฤดูหนาว 4 แหล่ง คือ 1) พื้นที่ป่าปลายน้ำ 2) ดินพื้นที่ทำการเกษตรปลายน้ำ 3) พื้นที่ป่าต้นน้ำ และ
4) ดินพื้นที่ทำการเกษตรต้นน้ำ ใน 3 ฤดู คือ ฤดูหนาว (เดือนธันวาคม) ฤดูร้อน (เดือนเมษายน) และฤดูฝน (เดือน
กรกฎาคม) โดยการทดสอบคุณสมบัติในการส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช ได้แก่ การทดสอบการสร้าง siderophore
การทดสอบความสามารถในการละลายฟอสเฟต และการทดสอบการสร้างกรดอินโดลอะซีติก (IAA) พบว่า
Streptomyces sp. WF 4-1 มีความสามารถในการสร้าง siderophore สูงที่สุด Streptomyces sp. WF 10-1 มี
ความสามารถในการละลายฟอสเฟตสูงที่สุด ส่วนแอคติโนมัยสีทที่แยกได้จากดินในฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูฝนที่มีการ
สรางกรดอินโดลอะซีติกมีจำนวนทั้งหมด 42 32 และ 29 ไอโซเลท ตามลำดับ ทำการคัดเลือกแอคติโนมัยสีทที่มี
ประสิทธิภาพในการส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช 10 ไอโซเลทเพื่อทดสอบความเป็นปฏิปักษ์กับเชื้อสาเหตุโรคพืช
พบว่า Streptomyces sp. WF 4-1 มีประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียก่อโรคพืช Erwinia carotovora
pv. carotovora, Ralstonia solanacearum, Xanthomonas axonopodis pv. glycines และ X. oryzae pv.
oryzae ได้ดีที่สุด ส่วน Streptomyces sp. WA 20-3 มีประสิทธิภาพในการยับยั้งแบคทีเรียก่อโรคพืช X. campestris
pv. campestris ได้ดีที่สุด ด้านการทดสอบการยับยั้งการเจริญของเชื้อราก่อโรคพืช ได้แก่ Colletotrichum sp.,
Fusarium sp., Phytophthora palmivora, Rhizoctonia solani, Rhizoctonia sp. และ Sclerotium rolfsii พบว่า
Streptomyces sp. RF 23-1 มีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อราก่อโรคทดสอบได้ทุกชนิด การคัดเลือกแอคติโนมัยสีทที่มี
สมบัติไม่เป็นเชื้อปฏิปักษ์ (non-antagonistic) ต่อไรโซเบียม พบว่า Streptomyces sp. WF 3-1, WF 4-1, WF 10-1,
RF 12-4 และ RF 23-1 ไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อเชื้อไรโซเบียมทั้ง 3 ชนิด คือ Bradyrhizobium japonicum DASA 02006,
B. liaoningense DASA 03018 และ B. daqingense DASA 03084 ดังนั้นจึงสามารถใช้แอคติโนมัยสีทไอโซเลท
ดังกล่าวร่วมกับการใช้ไรโซเบียมทั้ง 3 ชนิดได้ จากการทดลองในระดับโรงเรือนพบว่า ต้นกล้าถั่วเขียวมีอาการเน่าตายเมื่อ
ได้รับการปลูกเชื้อราก่อโรคพืช S. rolfsii แม้จะปลูกเชื้อแอคติโนมัยสีท Streptomyces sp. WF 4-1 ร่วมด้วย ส่วน
ต้นกล้าที่มีการปลูกเชื้อ Streptomyces sp. RF 12-4 มีการเกิดโรคปานกลางในระดับ 2 ส่วนการปลูกเชื้อแบคทีเรีย
สาเหตุโรคพืช E. carotovora pv. carotovora ทำให้ต้นกล้าถั่วเขียวเกิดโรคเล็กน้อยในระดับ 1 โดยความสูงของต้น
น้ำหนักสด ความยาวรากและจำนวนปมรากของแต่ละกรรมวิธี ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ
คำสำคัญ : แอคติโนมัยสีท ปฎิปักษ์ ลุ่มน้ำปาย เชื้อสาเหตุโรคพืช
คำนำ
จุลินทรีย์ดินเป็นแหล่งของสารประกอบธรรมชาติที่น่าสนใจสำหรับเภสัชภัณฑ์ เกษตรกรรม และอุตสาหกรรมอื่น ๆ
จุลินทรีย์ดินที่มีความสำคัญกลุ่มหนึ่ง คือ แอคติโนมัยสีทซึ่งเป็นแบคทีเรียแกรมบวกที่แพร่กระจายในธรรมชาติและ
สามารถสร้างสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพหลายชนิด มีรายงานจำนวนมากเกี่ยวกับการใช้แอคติโนมัยสีทเป็นสารควบคุมทาง
ชีวภาพในการทดแทนการใช้สารเคมีทางการเกษตร (El-Tarabily and Sivasithamparam, 2006; Law et al., 2017)
เนื่องจากแอคติโนมัยสีทสร้างสารควบคุมทางชีวภาพที่มีศักยภาพสูงในการควบคุมเชื้อก่อโรคพืชและไม่มีผลต่อสิ่งแวดล้อม
หรือสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่เป้าหมายอื่น ๆ การศึกษาเกี่ยวกับแอคติโนมัยสีทในทางการเกษตรได้รับความสนใจอย่างมากเมื่อมี
ความเป็นไปได้ว่า สามารถป้องกันรากจากการเข้าทำลายของเชื้อราก่อโรคพืช โดยการผลิตเอนไซม์ที่ย่อยสลายผนังเซลล์
ของเชื้อราและแบคทีเรีย หรือการผลิตสารต่อต้านการเจริญของเชื้อก่อโรคพืช นอกจากนี้ยังสามารถผลิตสารส่งเสริมการ
เจริญเติบโตของพืช เช่น IAA ช่วยในการเจริญเติบโตของราก การผลิต siderophores เพื่อเพิ่มการดูดซึมธาตุอาหาร เป็นต้น
งานวิจัยนี้ได้ศึกษาศักยภาพในการส่งเสริมการเจริญเติบโตและความเป็นปฏิปักษ์กับเชื้อสาเหตุโรคพืชของ
แอคติโนมัยสีทที่ดำรงชีวิตอยู่ในสภาพพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ลุ่มน้ำปาย
จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความแตกต่างกันของสภาพภูมิอากาศระหว่างกลางวัน (เฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี ตั้งแต่ 2548
ถึงปัจจุบัน เท่ากับ 38.4 องศาเซลเซียส) และกลางคืน (เฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี ตั้งแต่ 2548 ถึงปัจจุบัน เท่ากับ 9.8 องศา
เซลเซียส) ในปัจจุบันมีการบุกรุกพื้นที่ป่าบริเวณลุ่มน้ำปายที่เคยเป็นป่าอุดมสมบูรณ์มีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ
212