Page 69 -
P. 69
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร
ภาษาเหนืออยู่ คุณลุงท่านศึกษาด้วยตนเองและเรียนรู้จากปราชญ์ชาวบ้าน คุณลุงเริ่มจาก
ภาษาท้องถิ่น แล้วศึกษาภาษาอีสาน ต่อมาก็ภาษาไทถิ่นต่างๆ ซึ่งจะช่วยในการอ่าน ภาษา
ไทอาหม ภาษาไทใต้คงคือภาษาที่ใช้อยู่ในแถบปลายแม่นำ้าคง ภาษาไทฟาเก เลยไปถึงลังกา
ทำาให้อ่านจารึกแทน “เซเดส์” ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ คุณลุงเรียนด้วยตัวเอง และคุณลุงพูดแบบขำาๆ
ว่า ท่านเป็น ณ นคร แต่ไม่ค่อยรู้ภาษาไทยใต้ของทางนครศรีธรรมราช
การศึกษาภาษาไทยโบราณของคุณลุงเป็นที่ยอมรับในวงวิชาการทั่วไป ที่เป็นที่รู้จัก
กันดีได้แก่การชำาระประวัติศาสตร์สุโขทัย ถิ่นเดิมและตระกูลภาษาไทย การแบ่งกลุ่มไทย
ตามตัวหนังสือที่ใช้ พจนานุกรมไทยอาหม ตัวอักษรไทยในล้านนาและที่มาของอักษรไทย
ล้านนาและไทยลื้อ และการศึกษาเรื่องเผ่าไทต่างๆ การที่คุณลุงเป็นนักคณิตศาสตร์ด้วย
ท่านเป็นผู้ที่คำานวณวันที่สร้างกรุงศรีอยุธยา และตั้งข้อสังเกตความผิดพลาดในการทำาสงคราม
ยุทธหัตถี ระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระมหาอุปราชา เป็นผลให้มี
การเปลี่ยนแปลงวันกองทัพไทย จากวันที่ ๒๕ มกราคม เป็นวันที่ ๑๘ มกราคม ทักท้วง
การอ่านศิลาจารึกวัดเขาสุมนกูฏยุคพญาลิไท ที่ศาสตราจารย์เซเดส์อ่านไว้ และศาสตราจารย์
เซเดส์ก็ยอมรับ นอกจากนี้ก็เป็นการชำาระประวัติศาสตร์ไทย และคลี่คลายปริศนามากมาย
ในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา
คุณลุงบอกว่าวิชาคณิตศาสตร์ และสถิติ สามารถมาใช้ร่วมกับประวัติศาสตร์ โบราณคดี
ได้อย่างดี มีอีกเรื่องที่ไม่ค่อยมีใครทราบ คุณลุงเชี่ยวชาญเรื่องปีหนไท เรื่องปฏิทิน และคำานวณ
โหราศาสตร์ ท่านเคยศึกษาเรื่องดูดวงจากพระวัดสุทัศน์ จนสามารถดูดวงได้ ส่วนมากจะ
ดูดวงตัวเอง
หลังจากทำางานทั้งด้านบริหารและสอนจนถึงปี พ.ศ. ๒๔๙๔ ท่านก็ได้ทุนไปศึกษา
ระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ทางสถิติที่มหาวิทยาลัย Cornell รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ในช่วงเวลาที่ท่านศึกษาอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ท่านป่วยเป็นโรควัณโรค
ที่กระดูก ต้องพักการเรียน นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลถึง ๑ ปี ตลอดเวลา ๖ ปี ท่านไม่ได้
กลับเมืองไทยเลย และเมื่อกลับเมืองไทยก็มาสอนที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ดังเดิม
ก่อนจะไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทและเอก ท่านได้สมรสกับ นางเยาวลักษณ์ สกุลเดิม
ลีละชาต ท่านเล่าว่าสมัยก่อนนั้นถือว่าท่านแต่งงานช้า ท่านเล่าว่าเป็นเพราะท่านต้องส่งเสีย
น้องๆ และหลานๆ คุณลุงมีบุตรชายคนแรกคือ ผศ.ดร.ปิยพร ณ นคร แล้วท่านก็ไปศึกษาต่อ
ต่างประเทศนานถึง ๖ ปี ดังกล่าวแล้วข้างต้น โดยที่ภรรยาของท่านเป็นผู้ดูแลบุตรมาโดยตลอด
ชีวิตครอบครัวคุณลุงกับภรรยาท่านแรก มีปัญหาต้องแยกทางกัน ด้วยเหตุผลที่คุณลุงเล่าว่า
คุณลุงไม่มีเวลาให้ครอบครัว ไม่ค่อยดูแลครอบครัว มัวไปดูแลคนอื่น คือพี่น้อง ญาติมิตร
67
