Page 84 -
P. 84
โครงการรวบรวมและจัดทําวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
94 Thai J. For. 35 (1) : 86-97 (2016)
ระยะเวลาในการตั้งถิ่นฐาน ทดสอบโดย ราษฎรกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 3 กลุ่ม คือ ไม่เป็นสมาชิก
ใช้สถิติ F-test โดยแบ่งระยะเวลาในการตั้งถิ่นฐาน กลุ่มทางสังคม เป็นสมาชิกกลุ่มทางสังคมกลุ่มเกษตรกร
ออกเป็น 3 ช่วงเวลา คือ ราษฎรที่มีระยะเวลาในการ และ กลุ่มอื่นๆพบว่า ราษฎรที่มีการเป็นสมาชิกกลุ่มทาง
ตั้งถิ่นฐาน 1-10 ปี 11-20 ปี และมากกว่า 20 ปี ขึ้นไป สังคมต่างกันมีการพึ่งพิงทรัพยากรป่าไม้ในป่าชุมชนบ้าน
พบว่า ราษฎรที่มีระยะเวลาในการตั้งถิ่นฐานต่างกันมี หนองผักไรแตกต่างกันอย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติที่ระดับ
การพึ่งพิงทรัพยากรป่าไม้ในป่าชุมชนบ้านหนองผักไร 0.05 ในด้านการเก็บหาฟืน และการเก็บหาพืชสมุนไพร
แตกต่างกันอย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ใน จึงยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้ เมื่อทดสอบความแตกต่าง
ด้านการเก็บหาเห็ด และการเก็บหาน�้าผึ้ง จึงยอมรับ เป็นรายคู่ด้วยวิธีของ Scheffe’ พบว่า ราษฎรกลุ่มตัวอย่าง
สมมติฐานที่ตั้งไว้ เมื่อท�าการทดสอบความแตกต่างเป็น ที่มีการเป็นสมาชิกกลุ่มทางสังคมกลุ่มเกษตรกร มีการ
รายคู่ด้วยวิธีของ Scheffe’พบว่า ราษฎรกลุ่มตัวอย่างที่มี
ระยะเวลาในการตั้งถิ่นฐาน 1-10 ปี มีการเก็บหาเห็ด (x = เก็บหาฟืน (x = 0.26 ลูกบาศก์เมตร) มากกว่าราษฎร
15.69 กิโลกรัม) และน�้าผึ้ง (x = 1.31 ขวด) มากกว่าราษฎร กลุ่มตัวอย่างที่มีการเป็นสมาชิกกลุ่มทางสังคมกลุ่มอื่นๆ
กลุ่มตัวอย่างที่มีระยะเวลาในการตั้งถิ่นฐาน 11-20 มี (x = 0.10 ลูกบาศก์เมตร) อย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติที่
การเก็บหาเห็ด (x = 2.81 กิโลกรัม) และน�้าผึ้ง (x = 0.54 ระดับ 0.05 และ ราษฎรกลุ่มตัวอย่างที่มีการเป็นสมาชิก
ขวด) และมากกว่า 20 ปี มีการเก็บหาเห็ด (x = 4.10 กลุ่มทางสังคมกลุ่มเกษตรกร มีการเก็บหาพืชสมุนไพร
กิโลกรัม) และน�้าผึ้ง (x = 0.40 ขวด) อย่างมีนัยส�าคัญ (x = 10.57 กิโลกรัม) มากกว่าราษฎรที่ไม่เป็นสมาชิก
ทางสถิติที่ระดับ 0.05 กลุ่มทางสังคม (x = 2.44 กิโลกรัม) และกลุ่มอื่นๆ (x =
รายได้ของครัวเรือน ทดสอบโดยใช้สถิติ 1.12 กิโลกรัม) อย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
F-test โดยแบ่งรายได้ต่อปีในครัวเรือนของราษฎรกลุ่ม ความรู้ในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ทดสอบ
ตัวอย่างออกเป็น 5 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีรายได้น้อยกว่า โดยใช้สถิติ t-test โดยแบ่งระดับความรู้ในการอนุรักษ์
หรือเท่ากับ 50,000 บาท มีรายได้อยู่ 50,001 - 100,000 ทรัพยากรป่าไม้ของราษฎรกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 2 กลุ่ม
บาท 100,001-150,000 บาท 150,001- 200,000 บาท คือความรู้ในระดับต�่า และระดับสูง พบว่าราษฎรที่มี
และมากกว่า 200,000 บาท พบว่า ราษฎรที่มีรายได้ต่างกัน ความรู้ในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ต่างกันมีการพึ่งพิง
มีการพึ่งพิงทรัพยากรป่าไม้ในป่าชุมชนบ้านหนองผักไร ทรัพยากรป่าไม้ในป่าชุมชนบ้านหนองผักไรแตกต่าง
แตกต่างกันอย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ใน กัน อย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ในด้านการ
ด้านการเก็บหาแมลงกินได้ จึงยอมรับสมมติฐานที่ตั้ง เก็บหาฟืน จึงยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้ โดยราษฎรกลุ่ม
ไว้ เมื่อท�าการทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ด้วยวิธี ตัวอย่างที่มีความรู้ในระดับสูงมีการเก็บหาไม้ฟืน (x =
ของ Scheffe’ พบว่า ราษฎรกลุ่มตัวอย่างที่มีรายได้
100,001-150,000 บาท มีการเก็บหาแมลงกินได้ (x = 0.15 ลูกบาศก์เมตร) มากกว่าราษฎรกลุ่มตัวอย่างที่มี
2.01 กิโลกรัม) มากกว่าราษฎรกลุ่มตัวอย่างที่มีรายได้ ความรู้ในระดับต�่า (x = 0.06 ลูกบาศก์เมตร) อย่างมีนัย
น้อยกว่าหรือเท่ากับ 50,000 (x = 0.99 กิโลกรัม) รายได้ ส�าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
50,001-100,000 บาท (x = 0.86 กิโลกรัม) และรายได้ การได้เข้ารับการฝึกอบรมของป่าชุมชน
มากกว่า 200,000 บาท (x = 0.54 กิโลกรัม) อย่างมีนัย ทดสอบโดยใช้สถิติ t-test โดยแบ่งการเข้ารับการฝึก
ส�าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 อบรมของราษฎรกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 2 กลุ่ม คือไม่เคย
การเป็นสมาชิกกลุ่มทางสังคม ทดสอบโดยใช้ เข้ารับการฝึกอบรม กับเคยเข้ารับการฝึกอบรม พบว่า
สถิติ F-test โดยแบ่งการเป็นสมาชิกกลุ่มทางสังคมของ ราษฎรที่เคยเข้ารับการฝึกอบรม ต่างกันมีการพึ่งพิง