Page 37 -
P. 37
โครงการรวบรวมและจัดทําเอกสารวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
26 วารสารมนุษยศาสตร
Lakoff and Johnson (1980: 3) ผูริเริ่มการศึกษาอุปลักษณเชิงมโนทัศน
กลาววา “Metaphor is pervasive in everyday life, not just in language but in
thought and action. Our ordinary conceptual system, in term of which we both
think and act, is fundamentally metaphorical in nature.” สรุปไดวาอุปลักษณไมได
เปนเพียงถอยคําหรือรูปภาษาที่เราใชกันอยางแพรหลายในชีวิตประจําวัน แตอุป
ลักษณเปนสิ่งที่สะทอนความคิดและการกระทําของมนุษย ดวยเหตุนี้มนุษยจึง
เขาใจสิ่งที่เปนนามธรรม เพราะมนุษยนําสิ่งที่เปนนามธรรมเหลานั้นไปเปรียบเทียบ
กับสิ่งที่เปนรูปธรรมซึ่งเปนสิ่งที่มนุษยคุนเคยหรือมีประสบการณเพื่อที่จะทําความ
เขาใจสิ่งที่เปนนามธรรมเหลานั้น
จากการทบทวนวรรณกรรม ผูวิจัยพบวายังไมมีการศึกษาอุปลักษณเชิง
มโนทัศนของคําวา “กิเลส” ในภาษาไทยโดยตรง งานวิจัยสวนใหญจะเปนงาน
ทางดานปรัชญาและศาสนา เชน งานวิจัยของ พระมหาธีระพล สุขแสง (2546) ที่
ศึกษาคําสอนเรื่องกิเลสในพุทธศาสนาเถรวาท และงานวิจัยของเจาอธิการทองใบ อมโร
(2553) ที่ศึกษาหลักธรรมที่นําไปปฏิบัติเพื่อการหลุดพนกิเลสในพุทธศาสนาเถรวาท
ในสวนของงานวิจัยทางดานภาษานั้น ผูวิจัยพบวา มีเพียงการกลาวถึง “กิเลส” ไว
ในงานวิจัยเรื่อง “อุปลักษณเกี่ยวกับชีวิตในหนังสือธรรมะ” ของ ปยภรณ อบแพทย
(2552) ซึ่งกลาววา กิเลสเปนปญหาและอุปสรรคตอการดําเนินชีวิตของมนุษย ทั้งนี้
ธรรมะเปนเสมือนเครื่องมือที่จะชวยใหมนุษยฝาฟนปญหาและอุปสรรคเหลานั้นให
ออกไปจากชีวิตของตนได
ดวยเหตุนี้ผูวิจัยจึงสนใจศึกษาอุปลักษณเชิงมโนทัศนของคําวา “กิเลส”ใน
ภาษาไทย ทั้งนี้เพราะตองการทราบความคิดของผูใชภาษาไทยวามีมโนทัศน
อยางไรเกี่ยวกับกิเลสซึ่งเปนสิ่งที่เปนนามธรรม รวมทั้งมโนทัศนเหลานั้นอาจจะ
สะทอนมุมมองบางประการเกี่ยวกับกิเลสตามหลักธรรมทางพุทธศาสนา