Page 45 -
P. 45
โครงการรวบรวมและจัดทําเอกสารวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
34 วารสารมนุษยศาสตร์
จะปรากฏเป็นรูปร่างต่างๆ ได้นั้นจะต้องใช้ลมเป็นตัวช่วยพัด ซึ่งรูปร่างของก้อน
เมฆที่ปรากฏในอุบาทว์พระพายก็คือ รูปมนุษย์ วัว ช้าง ราชสีห์ เสือ ม้า กา หรือ
ครุฑ และการจะเกิดควันลอยคลุ้งอยู่ในอากาศได้นั้นก็ต้องอาศัยลมมาช่วยพยุงให้
ควันลอยตัวขึ้นไปเช่นกัน
อุบาทว์ที่กล่าวถึงสายลมทั้งทางตรงและทางอ้อมมีความสัมพันธ์กับ
ประวัติของพระพายเพราะพระพายเป็นเทพแห่งสายลม พระบาทสมเด็จพระมงกุฎ
เกล้าเจ้าอยู่หัว (2503: 72) ทรงกล่าวว่าตามคัมภีร์ไตรเพทพระพายทรงรถเทียมม้า 1 คู่
แต่บางครั้งเทียมถึงร้อยหรือพันก็มีแล้วแต่ก าลังลมอ่อนหรือแรง นอกจากนี้พระ
พายยังมีหน้าที่ก ากับลมทั้ง 7 คือ ลมตะวันออก ลมตะวันตก ลมเหนือ ลมใต้ ลมพัด
ในเทวโลก ลมพัดในพรหมโลก และทิพยวายุคือ อากาศ (มาลัย, 2541: 128-129)
ดังนั้นพระองค์จึงสามารถควบคุมสายลมเพื่อแสดงเหตุให้เป็นที่ประจักษ์แก่มนุษย์
ตามที่ปรากฏในเรื่องอาธิไท้โพธิบาทว์ได้
7. อุบาทว์พระโสม
7.1 กล่าวถึงเตาไฟ ตัวอย่างเช่น สุนัขออกลูกที่เตาไฟ หนูไปท ารังอยู่
ใต้เตาไฟ ปลวกไปท ารังในเตาไฟ และเห็ดมางอกที่เตาไฟ ถึงแม้พระโสม (พระจันทร์)
จะไม่ได้มีความสัมพันธ์กับเตาไฟโดยตรง แต่ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สามารถให้แสงสว่าง
ได้เช่นเดียวกัน พลูหลวง (2530: 13) กล่าวถึงแสงสว่างจากรัศมีของพระจันทร์เอาไว้
ว่าแต่เดิมมีความสว่างไสวมากที่สุดในยามค่ าคืน แต่หลังจากพระจันทร์ถูกพระทักษะ
สาปให้ไม่สามารถมีบุตรได้และเป็นวัณโรคเนื่องจากรักพระชายาซึ่งเป็นพระธิดา
ของพระทักษะไม่เท่ากันแล้วรัศมีของพระจันทร์ก็ค่อยๆ มัวหมองลงทุกครั้งที่
อาการของโรคก าเริบ (มนุษย์เรียกช่วงเวลานี้ว่าข้างแรม) และก็จะกลับมาสุกสว่าง
อีกครั้งเมื่อหายจากโรค (มนุษย์เรียกช่วงเวลานี้ว่าข้างขึ้น)
7.2 กล่าวถึงสิ่งที่เป็นน้ า ได้แก่ น้ าผึ้งน้ าอ้อยในตุ่มหรือไหเดือดเป็นฟอง
เอง ตามต านานกล่าวว่าพระจันทร์เกิดจากการกวนเกษียรสมุทร และลอยจากทะเล
เป็นสิ่งที่ 5 บ้างก็ว่าพระองค์เป็นโอรสของพระวรุณ เทพแห่งน้ าทั้งหลาย เพราะคน
เห็นพระจันทร์โผล่ขึ้นมาจากมหาสมุทร (ส. พลายน้อย, 2519: 335–337)