Page 115 -
P. 115

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                                                                                                      109


               อย่างน้อย 60 ซม. ในแหล่งที่มีโรคนี้แพร่ระบาดมาก  หากพบว่ามีแมลงมาเกาะดูดกินจากผลที่เป็นโรคก็ควร

               พ่นด้วยสารเคมีป้องกันและกําจัดแมลงตามความจําเป็น


               5. โรคผลเน่าสีนํ้าตาล

                        ลักษณะอาการ :

                               เชื้อบักเตรีจะเข้าทําลายส่วนยอดของรังไข่ และบริเวณส่วนบนของผลคือ ส่วนที่อยู่ติดกับ

               จุกหรือกลุ่มใบ  แต่ส่วนมากจะเกิดในระยะที่ผลใกล้สุกหรือแก่เต็มที่แล้ว ลักษณะอาการภายนอกของผล
               หรือผิวเปลือกมักจะไม่ค่อยชัดเจน เพราะตาที่ผลจะเกิดเน่าเป็นสีนํ้าตาลปนสีเขียวในระยะแรก เมื่อเกิดใน

               ระยะผลสุกแผลที่ถูกทําลายจะเป็นสีนํ้าตาล ตาที่เน่าจะขยายลุกลามไปยังตาบริเวณข้างเคียง จึงทําให้เห็น

               ลักษณะอาการได้ง่ายยิ่งขึ้น เมื่อผ่าตรวจดูภายในเนื้อเยื่อของผลจะพบว่าส่วนที่เน่าจะเป็นสีเหลืองปนนํ้าตาล
               บางส่วนจะเกิดเป็นไตแข็ง สีขาวนวลปนเหลือง ในขณะเดียวกันก็จะมีจุดสีม่วงดําเกิดอยู่ประปรายทั่วไป

               อย่างไรก็ตามเมื่อยังอยู่ในสภาพไร่เชื้อโรคก็สามารถเข้าทําลายใบ เกิดเป็นจุดและขีดสีเหลืองเป็นทางยาว

               แล้วแห้งไป
                        สาเหตุของโรคและการแพร่ระบาด :

                               เกิดจากเชื้อบักเตรี  Erwinia   ananas   ในการแพร่ระบาดนั้นมีนํ้าและแมลงเป็นพาหะ

               สําคัญ ซึ่งแมลงจะมาไต่ตอมผลที่เน่าและพาเชื้อบักเตรีสาเหตุของโรคติดไปแพร่ระบาดสู่ต้นอื่น ๆ อีก

                        การป้องกันและกําจัด :

                               ในระยะออกดอกควรพ่นด้วยสารเคมี เช่น คิวปรัสออกไซด์ 30 กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร หรือ
               สารปฏิชีวนะ เช่น อะกริมัยซิน-100 อัตรา 2 กรัมต่อนํ้า 20 ลิตร ถ้าหากเป็นมากในระยะติดผล ก็ควรพ่นอีก

               ครั้งหนึ่ง


               6. โรคเหี่ยว

                        ลักษณะอาการ :

                               เชื้อราสาเหตุของโรคเจริญอยู่ในดินบริเวณนั้น แล้วเข้ามาทําลายรากให้เกิดมีลักษณะ

               อาการเน่า โดยในระยะแรกจะทําลายปลายรากและลุกลามเข้าไปยังรากส่วนใน รากจะเน่าเป็นสีนํ้าตาล ท่อ

               นํ้าท่ออาหารถูกทําลายหมด ไม่สามารถส่งผ่านนํ้าและแร่ธาตุอาหารไปสู่ส่วนบนต่อไป อันเป็นผลให้เกิด
               การเหี่ยวเฉา ใบสีเขียวหม่น ไม่สดใส  เมื่อเป็นโรคมากจะทําให้รากเน่าหมดและจะยืนเหี่ยวเฉาแห้งตายไป

               ทั้งต้น โรคนี้จะเกิดเป็นมากในแปลงสับปะรดที่ปลูกอยู่บนดินที่มีความชุ่มชื้นสูง โดยเฉพาะในฤดูฝนแต่ถ้า

               ในฤดูกาลแห้งแล้งจะไม่ค่อยปรากฏว่าเป็นโรคนี้  การเกิดเป็นหย่อม ๆ กระจัดกระจายทั่วไปในแปลงปลูก
   110   111   112   113   114   115   116   117   118   119   120