Page 73 -
P. 73

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว





               5.5 สรุปท้ายบท

                       สถานภาพข้อมูลพื้นฐานของครัวเรือนตัวอย่าง ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุเฉลี่ย 52  ปี มีการศึกษา

               เฉลี่ย 6.14  ปีหรือระดับประถมศึกษา ครัวเรือนเกษตรกรตัวอย่างโดยส่วนใหญ่เป็นครัวเรือนขนาดเล็ก  มี

               สมาชิกในครัวเรือนจ านวน 1-4  คน และมีจ านวนสมาชิกที่อยู่ในวัยแรงงานประกอบอาชีพการเกษตรเฉลี่ย 2
               คนต่อครัวเรือน แต่ส่วนใหญ่มีประสบการณ์ในการปลูกพืชผักเฉลี่ยมากกว่า 20  ปีขึ้นไป เกษตรกรตัวอย่างมี

               พื้นที่การท าการเกษตรทั้งหมดเฉลี่ย 7.46 ไร่ต่อครัวเรือน ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ปลูกผัก ร้อยละ 39.11 หรือมี

               พื้นที่ในการเพาะปลูกผักเฉลี่ยจ านวน 3.01  ไร่ต่อครัวเรือน  ในปีการผลิต 2558/59 ครัวเรือนตัวอย่างมีการ
               ปลูกพืชผักจ านวนทั้งสิ้น 33 ชนิด โดยจังหวัดนครปฐมมีการเพาะปลูกกะเพรามากที่สุด รองลงมาเป็นกระชาย

               และคะน้า จังหวัดปทุมธานีส่วนใหญ่มีการเพาะปลูกถั่วฝักยาว รองลงมาคือ ตะไคร้ พริก และข้าวโพดหวาน
               และจังหวัดราชบุรีมีการเพาะปลูกถั่วฝักยาวมากที่สุด เช่นเดียวกับจังหวัดปทุมธานี รองลงมาคือ แตงกวา และ

               มะเขือเปราะ
                       ส าหรับการจัดการศัตรูพืชของครัวเรือนเกษตรกรตัวอย่างส่วนใหญ่ อาศัยสารเคมีก าจัดศัตรูพืชเป็น

               หลัก (ร้อยละ 86) ในขณะที่ มีครัวเรือนเกษตรกรบางส่วนเลือกการจัดการศัตรูพืชแบบอินทรีย์โดยไม่มีการใช้

               สารเคมีก าจัดศัตรูพืช (ร้อยละ 14) โดยการควบคุมและจัดการศัตรูพืชที่ไม่ใช้สารเคมีมีหลากหลายวิธี ได้แก่
               การปรับสภาพแวดล้อมในการปลูก เช่น การท าความสะอาดแปลงด้วยการพรวนดิน และตากดิน และวิธีการ

               ปลูกพืชหมุนเวียน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม วิธีการปล่อยแมลงศัตรูธรรมชาติ หรือตัวห้ า ตัวเบียน ลงในแปลงเป็น

               วิธีที่เกษตรกรมีการใช้ไม่กว้างขวาง แต่เป็นวิธีการที่เกษตรกรสนใจจะน ามาใช้ในการควบคุมและจัดการศัตรูพืช
               ในอนาคตมากขึ้น

                       ครัวเรือนเกษตรกรตัวอย่างผู้ปลูกผักส่วนใหญ่มีการปฏิบัติตัวในการใช้สารเคมีก าจัดศัตรูพืชที่ถูกต้อง

               แต่ยังพบเกษตรกรมีการปฏิบัติตัวที่ไม่ถูกต้องหลายด้าน เช่น เกษตรกรมีการน าสารเคมีหลายๆชนิดผสมเข้า
               ด้วยกันในการฉีดพ่นเพื่อความรวดเร็วโดยไม่ค านึงถึงผลกระทบ เกษตรกรมักเลือกประเภทของสารเคมีที่ฉีดพ่น

               โดยสอบถามจากร้านค้าเป็นหลัก และเกษตรกรมักไม่นิยมฝังกลบผลิตภัณฑ์สารเคมีเกษตรกรหลังจากใช้งาน
               เป็นต้น โดยปัญหาทางสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นในพื้นที่ ได้แก่ ปัญหาดินเสื่อมคุณภาพ อากาศเป็นพิษ การปนเปื้อน

               ในแหล่งน้ า ปัญหาพืชและสัตว์ในพื้นที่มีจ านวนลดลง และแมลงที่มีประโยชน์ เช่น ตัวห้ า ตัวเบียน มีจ านวน

               ลดลง เป็นต้น ในขณะที่เกษตรกรโดยส่วนใหญ่ทราบถึงผลกระทบของสารเคมีก าจัดศัตรูพืชที่มีต่อสิ่งแวดล้อม
               แต่ยังพบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าสารเคมีอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพได้หลากหลาย ท าให้เกษตรกรใช้

               สารเคมีจ านวนมากโดยขาดความตระหนักและความส าคัญถึงผลกระทบด้านนี้ ซึ่งในบทต่อไปจะศึกษาถึง
               ทัศนคติด้านความเสี่ยงของเกษตรกร และความเต็มใจจ่ายของเกษตรกรต่อแนวทางเลือกในการจัดการศัตรูพืช













                                                           58
   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78