Page 99 -

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

แต่สามารถขายกาแฟสารในราคาที่สูงกว่า อาจได้ราคา
กลุ่มเกษตรกรที่ขายให้กลุ่มย่อย (บ้านสันเจริญ)

ถึง 220 บาทต่อกาแฟสาร 1 กก.  การมีกลุ่มย่อยหลายกลุ่มเพื่อมาช่วยระบายสินค้าจาก ชุมชน ต้องระวังเรื่องการควบคุมคุณภาพสินค้า สินค้า ด้อยคุณภาพทําลายชื่อเสียงของกลุ่มอื่นๆ ด้วย การทําตลาดคุณภาพสูงต้องใช้เวลา ตลาดเฉพาะของผู้ ชํานาญชิมกาแฟยังมีสัดส่วนน้อย เกษตรกรในชุมชนยัง ต้องพึ่งความต้องการซื้อจากตลาดทั่วไปที่ราคากาแฟ ค่อนข้างผันผวน

กลุ่มวิสาหกิจชุมชน (บ้านสันเจริญ) 700 บาทต่อ กก. และเมล็ดคั่วจากสาร Y ขาย ได้ประมาณ 300-400 บาทต่อ กก.  วิสาหกิจชุมชนไม่สามารถขยายกําลังการผลิต ได้ ถึงแม้จะต้องการผลิตในลักษณะเมล็ดคั่ว มากขึ้น  ขาดแคลนแรงงานและเงินลงทุนในเครื่องจักร  เนื่องจากมีกลุ่มย่อยหลายกลุ่ม หากมีกลุ่มที่ ด้อยเรื่องการควบคุมคุณภาพ อาจกระทบกับ ชื่อเสียงของกลุ่มอื่นๆ ด้วย  ต้องการให้ภาครัฐ สนับสนุนด้านเครื่องจักร อุปกรณ์ ที่จะช่วยแก้ข้อจํากัดด้านแรงงาน เนื่องจากกลุ่มต

กลุ่มเกษตรกรที่ขายให้ Gem Forest (บ้านมณีพฤกษ์)  ขั้นตอนการแปรรูปต้องพิถีพิถันและใช้องค์ความรู้ มาก เนื่องจากเน้นคุณภาพเป็นหลัก  เริ่มมีกลุ่มย่อยที่รับซื้อและแปรรูปหลายกลุ่มขึ้น แม้ ข้อดีคือเกษตรกรมีตัวเลือกมากขึ้น แต่หายรายใด ขาดการรักษาคุณภาพจะทําให้กลุ่มอื่นได้รับ ผลกระทบจากชื่อเสียงที่เสียหายไปด้วย  เกษตรกรส่วนมากยังไม่เห็นภาพของการพึ่งพากาแฟ มากกว่าขิง เนื่องจากผลตอบแทนจากขิงสูงกว่ามาก

ปัญหาจาก รูปแบบซื้อขาย ข้อจํากัด