Page 61 -
P. 61
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ Faculty of Agriculture, Kasetsart University
ใช้เชื้อจุลินทรีย์ปฏิปักษ์ชนิดนี้ ในลักษณะการหว่านพร้อมปุ๋ยคอกอัดเม็ด และการใช้สูตรผงคลุกเมล็ดข้าวงอก
ก่อนหว่าน ซึ่งจะลดค่าใช้จ่ายด้านแรงงานได้ จึงเป็นเป้าหมายหลักและที่มาของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ KU-2V1
ชนิดนี้ (สูตรอัดเม็ด) รวมทั้งวิจัยความถี่ของการใช้ และการใช้ร่วมผสมผสานกับวิธีการอื่นๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อเพิ่มผลผลิตและลดการใช้สารเคมี โดยผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาต้องมีต้นทุนต�่า ตลอดจนส่งเสริมให้เกษตรกร
สามารถผลิตใช้ได้เอง
ผลิตภัณฑ์นี้เป็นปุ๋ยคอกผสมจุลินทรีย์อัดเม็ดที่มีส่วนผสมของแบคทีเรีย Pseudomonas fluorescens
SP007s ที่พัฒนาเป็นรูปผงหัวเชื้อที่มีสารพาและสารเสริมประสิทธิภาพ (ภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ ISR-P/K) ซึ่ง
สูตรผงหัวเชื้อนี้เดิมได้พัฒนาเพื่อใช้ โดยตรงในลักษณะละลายน�้าคลุกเมล็ดก่อนปลูก และพ่นทางใบเพื่อ
ควบคุมโรค และด้วยเหตุที่เกษตรกรต้องการใช้ในรูปปุ๋ย จึงพัฒนาเป็นปุ๋ยคอกผสมจุลินทรีย์อัดเม็ดที่มีส่วน
ผสมของแบคทีเรียดังกล่าว (ภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ KU-2V1) ซึ่งมีการศึกษาถึงรายละเอียดอัตราส่วนผสม
ที่เหมาะสมในการผลิต การคงความมีชีวิตรอดของแบคทีเรียที่สูตรปุ๋ย และการคงประสิทธิภาพด้านต่างๆ
ซึ่งพบว่าสามารถอยู่ได้นานกว่า 12 เดือน นอกจากนี้มีการศึกษาวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในระบบการผลิตข้าว ซึ่งสรุปได้ดังนี้
1. เมื่อคลุกเมล็ดข้าวด้วยแบคทีเรียปฏิปักษ์ SP007s สูตร ISR-P/K+ พ่นด้วยสูตร ISR-P/K จ�านวน
6 ครั้ง (เริ่มเมื่อข้าวอายุ 14 ถึง 70 วัน เว้นสัปดาห์ที่มีการหว่านปุ๋ยคอกผสมจุลินทรีย์ 3 ครั้ง) +หว่านปุ๋ยคอก
ผสมจุลินทรีย์สูตร KU-2V1 (อัดเม็ด) 3 ครั้ง ที่อายุข้าว 21, 42 และ 70 วัน และร่วมกับการหว่านปุ๋ยยูเรีย
เพิ่มเติมคราวเดียวกันเพียง ½ เท่าของที่เกษตรกรใช้เป็นประจ�า ซึ่งจะให้ผลดีที่สุดในการลดโรคขอบใบแห้ง
โรคใบไหม้ โรคเมล็ดด่าง และโรคใบจุด ได้เท่ากับ 47, 37, 13 และ 12 เปอร์เซ็นต์ ตามล�าดับ และส่งเสริมให้
ต้นข้าวมีการเจริญเติบโตสูงสุดรวมทั้งมีผลผลิตคุณภาพเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 52 เปอร์เซ็นต์
2. ผลิตภัณฑ์ปุ๋ยคอกผสมจุลินทรีย์สูตร KU-2V1 นี้ มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการผลิตเอนไซม์ชนิด
ต่างๆ ให้พืชปกป้องโรคได้เพิ่มขึ้นซึ่งสัมพันธ์กับโรคที่เกิดน้อยลง ได้แก่ superoxide dismutase (SOD),
guaiacol peroxidase (GPX), β -1,3 glucanase, peroxidase (POX) และ phenylalanine ammonia-lyase
(PAL) ยิ่งไปกว่านั้นพบว่า เอนไซม์เหล่านี้มีการสะสมสูงสุดในช่วงที่ข้าวขาดน�้าติดต่อกัน 2 สัปดาห์ ที่ข้าวอายุ
90 วัน แสดงว่า ผลิตภัณฑ์ปุ๋ยคอกผสมจุลินทรีย์สูตร KU-2V 1 ที่มีแบคทีเรียสายพันธุ์ SP007s เป็นส่วนผสม
ออกฤทธิ์ที่ส�าคัญสามารถช่วยปกป้องให้พืชเกิดโรคน้อยลงและยังช่วยให้พืชทนแล้งได้ดีขึ้นด้วย ส่งผลให้มีการ
ลดปริมาณการใช้สารเคมี ซึ่งเมื่อน�าผลผลิตข้าวไปตรวจวิเคราะห์สารตกค้างไม่พบสารต้องห้ามอันตราย ได้แก่
pyrethroid, organophosphate และ endosulfan (แสดงประสิทธิภาพการลดการปนเปื้อนสารเคมีใน
สภาพแวดล้อม) และส่งผลให้ต้นทุนการผลิตต�่าลง (ลดปุ๋ยเคมี 50 เปอร์เซ็นต์ และสารเคมีควบคุมโรคพืช
ชนิดต่างๆ 100 เปอร์เซ็นต์) ขณะเดียวกันให้ผลก�าไรเพิ่มสูงขึ้น (ผลผลิตเพิ่มขึ้น 52 เปอร์เซ็นต์)
การใช้ประโยชน์ผลงานและกลุ่มผู้ได้รับประโยชน์/ใช้ประโยชน์
ผลิตภัณฑ์ปุ๋ยคอกผสมจุลินทรีย์แบบอัดเม็ด KU-2V1 นี้ เป็นประโยชน์โดยตรงต่อเกษตรกรผู้ผลิตพืช
โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตข้าว ซึ่งโดยทั่วไปมีการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีก�าจัดโรคและแมลงเกินความจ�าเป็น ซึ่งการ
ใช้ผลิตภัณฑ์ปุ๋ยคอกผสมจุลินทรีย์แบบอัดเม็ด KU-2V1 จะสามารถลดและหรือทดแทนการใช้สารเคมีต่างๆ
ดังกล่าวได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ประโยชน์โดยตรงที่เกษตรกรจะได้จากการใช้ ผลิตภัณฑ์ปุ๋ยคอกผสมจุลินทรีย์
แบบอัดเม็ด KU-2V1 สามารถสรุปได้ดังนี้
ครบรอบ 72 ปี คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หน้า 59