Page 119 -
P. 119

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

                                                                                       อุตุนิยมวิทยา  101







                       ทั่วแปลงทดลอง การวัดปริมาณน ้าฝนบนผิวดินจะต้องวัดทั้งการไหลเข้าและไหลออก จากนั้น


                       จงเปลี่ยนให้เป็นหน่วยเดียวกัน แล้วแทนค่าในสมการสมดุลของน ้าเพื่อค านวณการคายระเหยน ้า
                       จากแปลงทดลองต่อไป

                                   3)  การคาดคะเนการคายระเหยเฉลี่ยจากพื้นที่ลุ่มน ้า


                                   การคาดคะเนการคายระเหยน ้าจากพื้นที่ลุ่มน ้าคล้ายคลึงกับการวัดการคายระเหย

                       น ้าจากแปลงทดลอง แต่ขนาดของพื้นที่ใหญ่กว่ากันมาก กล่าวคือ ค่าการคายระเหยน ้าที่ได้จะเป็น
                       ค่าเฉลี่ยของทั้งลุ่มน ้า ซึ่งต่างจากการวัดการระเหยน ้าจากแปลงทดลองจะเป็นของพืชชนิดใดชนิด
                       หนึ่ง เนื่องจากเลือกปลูกได้ การวัดตัวแปรในลุ่มน ้าบางตัวท าได้ยาก เช่น การไหลของน ้าใต้ดิน
                       ปริมาณความชื้นในดิน ปริมาณน ้าที่ขังตามแอ่งน ้า การไหลเข้าออกของน ้าตามล าน ้า ปริมาณ
                       น ้าฝน เป็นต้น ดังนั้นการคาดคะเนการคายระเหยน ้าของลุ่มน ้าจึงมักจะท าในระยะเวลานานพอ


                       สมควร เช่น 1 ปี เพื่อให้ตัวแปรบางตัวจะมีค่าที่เปลี่ยนกลับมาเท่าเดิมหรือใกล้เคียง เช่น ปริมาณ
                       ความชื้นของดิน ทั้งนี้เพราะว่าการเปลี่ยนแปลงในระยะเวลานานจะมีค่าน้อยและในทางปฏิบัติก็
                       เป็นไปได้ยากที่จะวัดความชื้นของดินจากพื้นที่ลุ่มน ้าให้เหมือนกับวัดจากแปลงทดลอง


                                   4)  การคาดคะเนการคายระเหยน ้าจากการเปลี่ยนแปลงของระดับน ้าใต้ดิน

                                   การคาดคะเนการคายระเหยน ้าโดยการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับน ้าใต้ดิน

                       ท าได้ในกรณีที่เขตรากพืชอยู่ไม่ห่างจากระดับน ้าใต้ดิน  น ้าที่แทรกขึ้นมาตามช่องว่างในดินขนาด

                       เล็ก (capillary fringe) เป็นแถบความชื้นที่พืชสามารถดูดน ้าไปใช้ได้ ซึ่งจะท าให้ระดับน ้าใต้ดินลด
                       ต ่าลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางวัน แต่ในช่วงเวลากลางคืนพืชไม่มีการคายน ้า ระดับน ้า


                       ใต้ดินอาจเพิ่มสูงขึ้นอีกเนื่องจากมีน ้าไหลมาทดแทน เมื่อท าการวัดระดับน ้าใต้ดินที่เปลี่ยนแปลง
                       ตลอดเวลาจะคาดคะเนปริมาณน ้าที่คายระเหยจากพืชได้
   114   115   116   117   118   119   120   121   122   123   124