Page 126 -
P. 126

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี







              ทําให้มีปริมาณการดูดซับพลังงานรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์สูงกว่าพื้นที่ในแนวตั้ง เช่น ผนังของอาคารจึงทําให้
              หลังคาร้อนและได้รับรังสีความร้อนมากกว่าส่วนอื่นของอาคารนอกจากนี้ หลังคายังเป็นส่วนที่อยู่บนสุดของอาคาร

              ซึ่งทําหน้าที่ป้องกันแสงอาทิตย์ให้กับอาคารทั้งหลัง หลังคาจึงเป็นส่วนที่มีความร้อนสูงที่สุดในองค์ประกอบทั้งหมด
              ของอาคารทั้งหลังและหลังคาที่มีสีเข้ม เช่น สีน้ําตาลแดงหรือสีน้ําเงินเข้ม จะดูดกลืนพลังงานความร้อนสะสมไว้จนมี
              อุณหภูมิที่ผิวหลังคา อาจสูงถึง 60-70 องศาเซลเซียส ทําให้หลังคาร้อนมากขึ้น และยังมีความร้อนซึ่งเกิดจากการแผ่
              รังสีของพลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์ซึ่งมีปริมาณมากที่สุด  คือเมื่อความร้อนจากการแผ่รังสีของดวงอาทิตย์

              (รังสีอินฟราเรด) ตกกระทบลงผิวด้านบนของหลังคา ผิวบนหลังคาซึ่งมุงด้วยวัสดุต่างๆ จะดูดซับความร้อนส่วนหนึ่ง
              ไว้แล้ว เริ่มถ่ายเทลงสู่ผิวด้านล่างของหลังคาในลักษณะการนําความร้อน และเมื่อผิวด้านล่างของหลังคาร้อน   รังสี
              ความร้อนหรือรังสีอินฟราเรด ก็จะถ่ายเทพลังงานความร้อนเข้าสู่ภายในอาคารได้ (Heat Transfer) ในลักษณะการ

              แผ่รังสีความร้อน อาคารจะเก็บสะสมเอาพลังงานความร้อนเหล่านี้ไว้ การที่จะทําให้อากาศภายในอาคารเย็นขึ้นจึง
              ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศเพื่อให้ดึงความร้อนออกจากอาคาร อาคารก็จะเย็นลง เครื่องปรับอากาศมีหลายขนาดทั้ง
              ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ การสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าจึงแปรผันตามขนาดของเครื่องปรับอากาศ เครื่องปรับอากาศ
              ที่มีขนาดใหญ่จึงสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าอย่างมาก
                    จากความร้อนที่มาจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่สะสมในอาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาคารที่มีหลังคาและผนังที่

              ก่อสร้างด้วยคอนกรีต จะเก็บความร้อนได้ดีทําให้ความร้อนยังแผ่กระจายอย่างต่อเนื่องถึงแม้จะเป็นช่วงเวลา
              กลางคืนก็ตาม  ภายในอาคารที่ก่อสร้างด้วยคอนกรีตหรือปูนก็จะยังคงร้อนอบอ้าวอยู่นั่นเอง  เครื่องปรับอากาศจึง
              ต้องทํางานหนักอย่างต่อเนื่องยิ่งเป็นช่วงฤดูร้อน เครื่องปรับอากาศยิ่งทํางานหนักกว่าปกติ การสิ้นเปลืองพลังงานมี

              มากขึ้นจึงเป็นที่มาของการคิดค้นวิธีการเอาชนะความร้อนเหล่านี้และลดปริมาณการใช้พลังงานลงนั่นก็คือ การ
              ติดตั้งฉนวนกันความร้อนหรือฉนวนกันร้อนขึ้นซึ่งการติดตั้งฉนวนกันร้อนดังกล่าว มีทั้งการติดตั้งบนหลังคาของ
              อาคารสถานที่ต่างๆ เพื่อลดปริมาณความร้อนลง จะมีผลทําให้อุณหภูมิภายในอาคารลดลงหมายถึงทําให้อากาศ
              ภายในอาคารเย็นลงนั่นเอง และประการสําคัญช่วยให้เครื่องปรับอากาศไม่ทํางานหนักจนเกินไปและมีผลต่อการ

              สิ้นเปลืองของพลังงานโดยรวมลดลงอย่างมาก ถ้าอาคารจํานวนมากมีการติดตั้งฉนวนกันร้อนกันมากขึ้นจะช่วย
              ประเทศชาติประหยัดพลังงานไฟฟ้าลงได้อย่างมหาศาล ประหยัดเงินตราของประเทศลดมลพิษพลังงาน


              การติดตั้งฉนวนกันร้อนช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างไร?


                    สําหรับการติดตั้งฉนวนกันร้อนที่ถูกต้อง จะช่วยปรับสภาพอากาศร้อนมาสู่อากาศเย็นตามปกติหรือทําให้
              อากาศเย็นลงได้ในขณะที่เครื่องปรับอากาศไม่ต้องทํางานหนักมากจนเกินไป ในการดึงเอาความร้อนที่สะสมอยู่ใต้
              หลังคา ใต้ฝ้าเพดาน หรือผนังปูน ภายในอาคารมาทําให้อากาศเย็นลง ดังนั้นการติดตั้งฉนวนกันร้อนจึงทําให้เกิดการ

              ประหยัดพลังงานช่วยลดค่าไฟฟ้าจากเครื่องปรับอากาศได้มากกว่า 40%  รวมถึงประหยัดค่าใช้จ่ายจากการใช้
              เครื่องปรับอากาศขนาดเล็กลงได้อีกด้วยการซ่อมบํารุง ช่วยยืดอายุเครื่องปรับอากาศให้ยาวนานขึ้น


                    นี่คือประโยชน์ที่ได้รับจากการติดตั้งฉนวนกันร้อนซึ่งได้ประโยชน์ทั้งเจ้าของอาคารโดยตรง และประโยชน์ที่
              ตกกับประเทศชาติ


              คุณสมบัติของฉนวนกันร้อนที่ดี


                    ในการใช้งานฉนวนกันความร้อนหรือฉนวนความร้อนจะต้องเลือกให้ตรงกับวัตถุประสงค์และตามชนิดการใช้
              งานของฉนวนความร้อนคุณสมบัติที่ดีนั้นพอสรุปได้ดังต่อไปนี้





                                                           123
   121   122   123   124   125   126   127   128   129   130   131