Page 53 -
P. 53
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
44 บทที่ 2
1. ความเขมขนของสาร A จะลดลงแบบเอกซโพเนนเชียล จนกระทั่งเปนศูนย ซึ่งจะเร็ว
หรือชาขึ้นกับคาคงที่อัตรา k แตไมขึ้นกับคาคงที่อัตรา k
2
1
2. ความเขมขนของสาร B จะเพิ่มขึ้นจนมีคาสูงสุดคือ [B] ที่เวลา t โดยขึ้นกับ
max
max
คาคงที่อัตราทั้งสองคือ k และ k ดังนี้
2
1
ในกรณีที่ k >> k จะไดความเขมขนของสาร B เพิ่มขึ้นอยางรวดเร็วไปสูคาความ
2
1
เขมขนเริ่มตนของสาร A หรือ [B] ~ [A] จากนั้นความเขมขนของสาร B จะลดลงอยางชาๆ เพื่อ
0
max
เปลี่ยนเปนผลิตภัณฑ C
สวนกรณีที่ k << k จะไดความเขมขนของสาร B เพิ่มขึ้นอยางชาและนอยกวา [A] 0
2
1
มากๆ เนื่องจากสาร B เปลี่ยนเปนสาร C อยางเร็ว
3. ความเขมขนของสาร C อาจจะตรวจไมพบในชวงเริ่มตน อยางไรก็ตามความเขมขน
ของสาร C จะมีคาเพิ่มขึ้นจนมีคาคงที่โดยขึ้นกับความเขมขนเริ่มตนของสาร A และความเขมขน
ของสาร C จะเพิ่มขึ้นมากในชวงที่ความเขมขนของสาร B มีคาสูงสุดและเริ่มลดลง
2.6.2 ปฏิกิริยาขนาน (Parallel) หรือปฏิกิริยาแขงขัน (Competing)
ปฏิกิริยาขนานหรือปฏิกิริยาแขงขัน คือ ปฏิกิริยาที่มีสารตั้งตนเหมือนกัน แตใหผลิตภัณฑ
ตางกัน และมีคาคงที่อัตราในแตละปฏิกิริยาตางกัน ดังนั้นปฏิกิริยาขนานจึงเปนปฏิกิริยาที่มีมากกวา
หนึ่งปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นพรอมๆ กัน และเรียกปฏิกิริยาที่ใหผลิตภัณฑที่มีปริมาณมาก วา ปฏิกิริยาหลัก
(main reaction) สวนปฏิกิริยาใดที่ใหปริมาณของผลิตภัณฑนอย จะถือวาเปนปฏิกิริยาขางเคียง (side
reaction)
โดยทั่วไปการควบคุมปริมาณของผลิตภัณฑในแตละปฏิกิริยาของปฏิกิริยาขนานมี 2 แบบ
คือ
ก. การควบคุมทางอุณหพลวัต (thermodynamic control) จะใหผลิตภัณฑหลัก (main
product) หรือผลิตภัณฑที่มีปริมาณมาก จะเปนสารที่เสถียรมากกวา (more stable) สารอื่นๆ
ข. การควบคุมทางจลนพลศาสตร (kinetic control) จะใหผลิตภัณฑหลัก (main product)
ที่มาจากปฏิกิริยาที่มีคาคงที่อัตรามากกวาปฏิกิริยาอื่นๆ
ดังนั้นในชวงตนของปฏิกิริยาขนาน การเกิดผลิตภัณฑตางๆ จะถูกควบคุมโดย
จลนพลศาสตร (kinetic control) แตชวงทายของปฏิกิริยา การเกิดผลิตภัณฑตางๆ จะถูกควบคุมโดย