Page 16 -
P. 16

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี




                       บทนํา                                                                             7





                       สมการอัตรานั่นเอง  เนื่องจากโมเลกุลาริตีเปนจํานวนที่แนนอนของสารตั้งตนที่เขาทําปฏิกิริยากัน
                       จริงในขั้นตอนมูลฐานตางๆ ของกลไกหนึ่งๆ

                              สําหรับสารตางๆ ที่เกิดขึ้นในขั้นตอนมูลฐาน ที่ไมใชผลิตภัณฑ (product) ของปฏิกิริยา จะ

                       เรียกวา สารมัธยันตร (intermediate) ซึ่งสารดังกลาวจะมีความวองไวตอปฏิกิริยา และอาจตรวจพบ
                       ไดทั้งนี้ขึ้นกับความเสถียรของสารและความวองไวของเครื่องมือหรือวิธีการในการตรวจวัด



                              ปฏิกิริยามูลฐานสามารถแบงออกไดเปน 3 ประเภท คือ ปฏิกิริยามูลฐานแบบโมเลกุลเดี่ยว
                       (elementary unimolecular reaction)  ปฏิกิริยามูลฐานแบบโมเลกุลคู (elementary bimolecular

                       reaction) และปฏิกิริยามูลฐานแบบสามโมเลกุล (elementary termolecular or trimolecular reaction)

                       อยางไรก็ตามปฏิกิริยามูลฐานสวนใหญจะเปนแบบโมเลกุลเดี่ยวหรือแบบโมเลกุลคู


                              ตัวอยางของปฏิกิริยามูลฐานแบบตางๆ มีดังตอไปนี้

                              1.6.1  ปฏิกิริยามูลฐานแบบโมเลกุลเดี่ยว  ซึ่งเกิดจากการสั่นของหนึ่งโมเลกุล  เพื่อแตกตัว

                       หรือจัดเรียงตัวใหม ดังนั้นปฏิกิริยามูลฐานแบบโมเลกุลเดี่ยวจะมีโมเลกุลาริตีเปนหนึ่ง และมีอันดับ

                       เปนหนึ่ง เชน

                                                   A       ⎯ →⎯      product(s)

                                                H 2
                                                C
                       ไดแก            CH 2       CH 2    ⎯ →⎯     CH CH = CH  2
                                                                        3

                              1.6.2  ปฏิกิริยามูลฐานแบบโมเลกุลคู เกิดจากคูของโมเลกุลมาชนกัน และมีการแลกเปลี่ยน
                       พลังงานระหวางอะตอมหรือกลุมของอะตอม ดังนั้นปฏิกิริยามูลฐานแบบโมเลกุลคูจะมีโมเลกุลาริตี

                       เปนสอง และมีอันดับเปนสอง เชน

                                            2A ⎯ →⎯  product(s)   หรือ   A + B ⎯ →⎯  product(s)

                       ไดแก                   Br + H     ⎯ →⎯      HBr  +  H
                                                      2

                              1.6.3  ปฏิกิริยามูลฐานแบบสามโมเลกุล เกิดจากการชนกันของ 3 โมเลกุล (เปนปฏิกิริยาที่

                       พบนอยมาก)  ดังนั้นปฏิกิริยามูลฐานแบบสามโมเลกุลจะมีโมเลกุลาริตีเปนสาม  และมีอันดับเปน

                       สาม เชน
                        3A ⎯ →⎯  product(s)  หรือ  A + B + C ⎯ →⎯  product(s)  หรือ  2A + B ⎯ →⎯  product(s)
   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21