Page 84 -
P. 84
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
12-29
วันที่ 8 มิถุนายน 2542 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบาย
เศรษฐกิจ (คศก.) คือ เห็นชอบในหลักการยุทธศาสตร์พืชหลัก ตามที่กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตร
และสหกรณ์เสนอ โดยให้เปลี่ยนชื่อเป็น "ยุทธศาสตร์สินค้าเกษตรหลัก" และมอบหมายให้คณะกรรมการ
หรือองค์กรที่ดูแลสินค้าเกษตรแต่ละชนิด รับไปพิจารณาในรายละเอียด แล้วรายงานผลให้ คศก. ทราบ โดย
ให้รับความเห็นของ คศก. ในส่วนที่เกี่ยวข้อง (เกี่ยวกับการพิจารณาเรื่องที่ยังมีข้อโต้แย้งกันหรือเรื่องที่ต้องมี
การตัดสินใจ ตลอดจนการก าหนดยุทธศาสตร์ในระยะยาว การให้ความส าคัญในเรื่องการพยายามลดการกีด
กันทางการค้าในต่างประเทศ การให้ส านักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนในการผลิตและการแปรรูป รวมทั้ง
การใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการผลิตสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออก) ไปพิจารณาด้วย และให้กระทรวงเกษตรฯ
รับความเห็นของ คศก. (เกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรทราบล่วงหน้าในส่วนของมาตรการ
ช่วยเหลือว่าบางมาตรการไม่สามารถกระท าได้เนื่องจากข้อผูกพันทางการค้า WTO ที่ไทยจะต้องจ ากัดการ
อุดหนุนการผลิตสินค้าเกษตรภายในประเทศ) ไปพิจารณาด าเนินการต่อไป
วันที่ 6 กรกฎาคม 2542 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด าเนินการ
จัดตั้ง "ศูนย์ผลักดันสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออก" ขึ้นตรงกับกรมวิชาการเกษตร โดยใช้งบประมาณปกติที่มี
อยู่ และให้แต่งตั้งข้าราชการศูนย์ผลักดันสินค้าเกษตรฯ โดยเกลี่ยอัตราก าลังเดิมจากหน่วยงานในสังกัดกรม
วิชาการเกษตร จ านวน 69 อัตรา ประกอบด้วย ระดับ 8 ในต าแหน่งผู้อ านวยการ จ านวน 1 อัตรา ระดับ 7
ในต าแหน่งรองผู้อ านวยการและ หัวหน้าฝ่าย จ านวน 7 อัตรา และระดับต่ ากว่าระดับ 7 จ านวน 61 อัตรา
โดยมีองค์ประกอบและอ านาจหน้าที่ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้รับความเห็นของ
กระทรวงอุตสาหกรรม (เกี่ยวกับการประเมินผลการด าเนินงานของศูนย์ผลักดันสินค้าเกษตรฯ ว่า สามารถ
สนับสนุนให้เกิดการส่งออกสินค้าเกษตร 4 ชนิด คือ ยางพารา ล าไย ทุเรียน และกล้วยไม้ในระดับใด การ
ส่งเสริมและพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ การก าหนดและตรวจสอบคุณภาพสินค้าให้ตรงตาม
มาตรฐานสากล และการจัดการด้านเงินลงทุนให้กับผู้ประกอบการเพื่อสนับสนุนการส่งออกให้เพิ่มมากขึ้น)
ไปด าเนินการด้วย ส าหรับรายละเอียดโครงสร้างขององค์กรและอัตราก าลังควรเป็นไปตามความเห็นของ
ส านักงาน ก.พ. (โดยเป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อกรมวิชาการเกษตร ซึ่งควรก าหนดเป็นค าสั่งกรมวิชาการ
เกษตร ก าหนดอ านาจหน้าที่ และมอบหมายให้ข้าราชการปฏิบัติงานในศูนย์ผลักดันสินค้าเกษตรฯ ไปก่อน
โดยไม่ต้องก าหนดเป็นพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราช การใหม่ในขณะนี้)
วันที่ 20 กรกฎาคม 2542 คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับเรื่อง การแก้ไขปัญหาความยากจนและการให้ความ
ช่วยเหลือทางการเงินแก่เกษตรกร และผู้ใช้แรงงาน โดยให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาขอบเขตวัตถุประสงค์ของ
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส. ) ตามพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์
การเกษตร พ.ศ. 2509 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ว่าจะครอบคลุมและสามารถช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ใช้แรงงานที่ไป
ประกอบอาชีพในต่างประเทศได้หรือไม่ เพียงใด หรือมีแนวทางในการช่วยเหลือที่เหมาะสมอย่างใด แล้วเสนอ
คณะรัฐมนตรีต่อไป และให้ประสานกับ ธ.ก.ส. ในเรื่องเกี่ยวกับการพิจารณาการให้กู้เงินของ ธ.ก.ส. เพื่อช่วยเหลือ