Page 163 -
P. 163
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
13-42
กฎหมายท าให้ชาวไร่อ้อยเป็นจ านวนมากได้รับความเสียหาย รวมทั้งได้มีการเพิ่มเติมข้อความในเรื่องการน า
เครดิตภาษีจากการขายน้ าตาลทรายมาคิดเป็นรายได้เพื่อค านวณราคาอ้อยฯ โดยยังไม่ได้ผ่านความเห็นชอบ
จาก กอน. และคณะรัฐมนตรีตามที่กฎหมายก าหนด ซึ่งศาลแพ่งได้มีค าพิพากษาให้เพิกถอนประกาศ
ดังกล่าว ตามค าพิพากษาของศาลแพ่ง คดีหมายเลขด าที่ ปค. 290/2541 คดีหมายเลขแดงที่ ปค.8/2546
และกระทรวงอุตสาหกรรมได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ อก 0601/419 ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 แจ้ง
ส านักงานอัยการสูงสุดว่าเห็นควรด าเนินการตามความเห็นของส านักงานอัยการสูงสุด (ไม่อุทธรณ์) ดังนั้น
คดีดังกล่าวจึงถึงที่สุดแล้ว และเมื่อประกาศฉบับดังกล่าวถูกเพิกถอนโดยค าพิพากษา จึงจ าเป็นจะต้อง
ด าเนินการน าเสนอประกาศราคาอ้อยและผลตอบแทนการผลิตและจ าหน่ายน้ าตาลทราย ฤดูการผลิตปี
2539/2540 ถึงฤดูการผลิตปี 2541/2542 ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้งหนึ่ง โดยใช้
หลักเกณฑ์และวิธีการตามประกาศ กอน. ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2537 เพื่อป้องกันผลกระทบที่เกิดจากการเพิก
ถอนประกาศดังกล่าว ที่อาจจะท าให้กองทุนอ้อยและน้ าตาลทรายต้องเข้ามารับผิดชอบในการจ่ายเงิน
ชดเชยให้กับชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ าตาลทรายที่เสียหายจากการออกประกาศฉบับดังกล่าว
วันที่ 7 เมษายน 2547 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการ
ด าเนินการโครงการพักช าระหนี้และลดภาระหนี้ให้แก่เกษตรกรรายย่อย ครบ 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน
2544 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2547 โดยผลการด าเนินงานเมื่อเริ่มต้นโครงการจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2547 มี
เกษตรกรคงเหลือจ านวน 1,944,029 ราย ต้นเงินคงเป็นหนี้ จ านวน 75,476 ล้านบาท เป็นผู้ใช้สิทธิพัก
ช าระหนี้ จ านวน 878,555 ราย ต้นเงินคงเป็นหนี้ จ านวน 41,006 ล้านบาท และเป็นผู้ใช้สิทธิ์ลดภาระหนี้
จ านวน 1,065,474 ราย ต้นเงินคงเป็นหนี้ จ านวน 34,470 ล้านบาท โดยในส่วนของเกษตรกรลูกค้าพัก
ช าระหนี้มีเงินกู้ถึงก าหนดช าระในเดือนมิถุนายน 2547 จ านวน 2,177 ล้านบาท เดือนกันยายน 2547
จ านวน 969 ล้านบาท เดือนธันวาคม 2547 จ านวน 1,186 ล้านบาท และเดือนมีนาคม 2548 จ านวน
22,614 ล้านบาท จ านวนที่เหลือจะทยอยช าระในปีถัดๆ ไป ทั้งนี้จากการท าการประเมินความสามารถใน
การช าระหนี้ของลูกค้าพักช าระหนี้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สามารถ
จ าแนกกลุ่มที่คาดว่า จะไม่มีปัญหาในการช าระหนี้เมื่อสิ้นสุดโครงการจ านวน 881,251 ราย จ านวนหนี้
คงเหลือในโครงการจะสามารถช าระหนี้ได้ จ านวน 39,689 ล้านบาท และกลุ่มที่คาดว่าจะมีปัญหาในการ
ช าระหนี้ มีจ านวน 108,295 ราย มีหนี้คงเหลือในโครงการจะมีปัญหาในการช าระหนี้ จ านวน 5,774 ล้าน
บาท โดยกลุ่มที่คาดว่าจะมีปัญหาดังกล่าวเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีปัญหาหนี้สินหลายทาง ลูกค้าที่ประสบปัญหา
ภัยธรรมชาติและใช้เงินกู้ผิดวัตถุประสงค์ ซึ่ง ธ.ก.ส. จะท าการฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพและอาชีพลูกค้าเหล่านี้
เป็นรายบุคคลเพื่อให้ลูกค้ามีความเข้มแข็งสามารถกลับมาช าระหนี้คืนได้ในที่สุด ส าหรับผลการออมเงิน ณ
วันที่ 31 มีนาคม 2547 มีเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการได้ออมเงินผ่านระบบ ธ.ก.ส. ยอดเงินออมคงเหลือ
จ านวนเงิน 14,749 ล้านบาท แยกเป็นการออมเงินเกษตรกรพักช าระหนี้ จ านวนเงิน 5,047 ล้านบาท และ
เกษตรกรลดภาระหนี้ จ านวนเงิน 9,702 ล้านบาท และผลการฟื้นฟูเกษตรกรหลังการพักช าระหนี้
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ด าเนินการโดยวิธีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เกษตรกรด าเนินการ จ านวน