Page 9 -
P. 9

โครงการพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี




                           2   สัทวิทยา : การวิเคราะหระบบเสียงในภาษา                                                                                  บทที่ 1   สัทวิทยาเพิ่มพูน

                                 วงจรนี้เริ่มตนที่สามัตถิยะทางภาษา ( Linguistic competence ) คือความรูความสามารถทางภาษา

                           ที่เปนธรรมชาติของมนุษย โดยเฉพาะในสวนที่เกี่ยวของกับเสียงและระบบเสียงซึ่งเปนเรื่องทาง  สัทวิทยา
                           ( Phonology )  การออกเสียงและเปลงเสียงเปนเรื่องทางสรีรสัทศาสตร  (Articulatory    phonetics)

                           กายภาพของเสียงหรือคลื่นเสียงเปนเรื่องทางกลสัทศาสตร  ( Acoustic  phonetics ) และการไดยินและรับรู
                           เสียงเปนเรื่องทางโสตสัทศาสตร  ( Auditory  phonetics )   การถอดเสียงในถอยความของผูฟงเปนเรื่อง
                           ของสามัตถิยะทางภาษาที่เกี่ยวของกับเสียงและระบบเสียงซึ่งสัมพันธกับหนวยคําหรือคําซึ่งเปนเรื่องของ

                           สัทวิทยา

                                 สัทวิทยาเปนการศึกษาเรื่องเสียงและระบบเสียงของภาษาซึ่งเปนนามธรรมและปรากฎเปน
                           พฤติกรรมทางภาษาที่เปนรูปธรรมกลาวคือสัทวิทยาศึกษาโครงสรางและหนาที่ของเสียงซึ่งสัมพันธกับ
                           ความหมายในภาษา


                           1.1 เสียงและหนวยเสียง  (Phonetics and Phonological Representations)

                                 1.1.1  เสียง   (Phonetic Representation)

                                        เสียง  คือ  สิ่งที่ผูพูดเปลงออกมาแตละครั้ง  และผูฟงไดยินเปนเสียงๆหนึ่ง สรีระของ
                           การออกเสียงแตละเสียงแตกตางกันไปตามอวัยวะตางๆที่ใชในชองเสียงของผูพูด  ตั้งแตกลองเสียงผาน

                           ชองคอ   ชองปาก และ/หรือชองจมูก  เพดานปากตลอดจนถึงริมฝปาก  เสียงในลักษณะนี้เมื่อพูดตอเนื่อง
                           เปนคําหรือถอยความจะมีคุณสมบัติในเชิงกายภาพเปนคลื่นเสียงตอเนื่อง หาจุดเริ่มตนหรือจุดจบที่ชัดเจน
                           ของเสียงแตละเสียงในถอยความไดยาก  นอกจากนี้เสียงในลักษณะนี้ยังมีคุณสมบัติที่อาจมีการแปร

                           (variation)  ไปตามเสียงที่อยูในบริบทขางหนา หรือขางหลังในคําหรือถอยความ และมักจะไมมีความคงที่
                           ในการพูดแบบตอเนื่อง (speech)

                                        เสียงที่พบในภาษาพูดของมนุษย  พอจะสรุปตามฐานกรณ (  place  of  articulation  )
                           ที่เกิดและลักษณะการออกเสียง ( manner of articulation ) และชนิดของกระแสลม (air-steam mechanism)

                           ที่ใช  ไดดังตารางที่ 1.1 และ 1.2 ตอไปนี้
   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14