Page 116 -
P. 116
ิ
ั
ิ
ุ
์
ิ
ิ
ื
โครงการพัฒนาหนังสออเล็กทรอนกสเฉลมพระเกียรต สมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร ี
้
่
วันทีล่วงหนาช าระหนีค่าพลอยให้โจทก์ต่อมาเช็คนั้นหายไปจากความครอบครองของโจทก์และมีผู้แก้ไข
้
่
้
วันออกเช็คและนาเช็คดังกล่าวเบิกเงินไปในบัญชีของจ าเลยทีธนาคารไปดังนีเมือพฤติการณของโจทก์มี
์
่
็
ส่วนท าให้เกิดกรณีเช็คพิพาทถูกลักโจทก์มีส่วนผิดเปนเหตุให้เช็คพิพาทหายไปและเช็คน้นไดใชเงิน
้
ั
้
้
่
้
ี
้
แล้ว หนทจ ำเลยตองช ำระรำคำพลอยใหแกโจทก์ย่อมจะระงับไปตำมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
ี่
พำณิชย์มำตรำ 321 วรรคสำม จ าเลยทั้งสามไมต้องรับผิดช าระค่าพลอยทีซื้อไปจากโจทก์ให้แก่โจทก์
่
่
อีก แม้เมื่อโจทก์ทราบว่าเช็คหายโจทก์ได้รีบบอกแก่จ าเลยและธนาคารเพือไม่ให้ใช้เงินแล้วแต่ปรากฏว่า
่
่
็
โจทก์บอกกล่าวแก่จ าเลยหลังจากทีมีการใช้เงินตามเช็คแล้วการบอกกกล่าวจึงไม่เปนประโยชนแก่โจทก์
์
่
้
จากค าพิพากษาฎีกานี ท าให้เห็นว่า มีการออกเช็คเพือช าระค่าพลอย แต่ต่อมาเช็คนั้นหาย และ
้
มีคนนาเช็คฉบับนีไปเบิกเงินจากธนาคาร และธนาคารได้จายเงินไปเรียบร้อยแล้ว ศาลฎีกาได้วินิจฉัยว่า
่
้
้
หนีตามสัญญาซื้อขายพลอยระงับไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น หากนาแนววินิจฉัยของค าพิพากษาฎีกานีมา
พิจารณากับตัวอย่ำงท 8.5 จะพบว่า เมื่อนายนิยมได้จ่ายเงินไปโดยชอบ หนีเดิมทีช าระไปโดยด้วยออก-
่
้
ี่
้
โอน-หรือ สลักหลังตั๋วเงิน ก็ย่อมระงับสิ้นไป กรณีนี นางสาวมิ้นผู้ท าเช็คหายควรจะต้องไปฟองให้นาย
้
ประจวบรับผิดตามกฎหมายละเมิดแทน
115
เอกสารประกอบการสอนวิชากฎหมายว่าด้วยตั๋วเงิน โดย อ. ดร. ชีวิน มัลลิกะมาลย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์