Page 121 -
P. 121
ั
ุ
ื
ิ
ิ
ิ
ิ
์
โครงการพัฒนาหนังสออเล็กทรอนกสเฉลมพระเกียรต สมเด็จพระเทพรตนราชสดาฯ สยามบรมราชกุมาร ี
่
้
สิงหาคม 2565 หากผู้ทรงนาตั๋วนีไปยืนให้ผู้จ่ายรับรองวันที 31 สิงหาคมฯ แต่ผู้จ่ายไม่ยอมรับรอง ผู้ทรง
่
สามารถนาตั๋วไปท าค าคัดค้านในวันที 31 สิงหาคมนีเอง หรือ 3 วันหลังจากนั้น (คือ วันที 1-2-3
่
่
้
้
่
่
่
่
่
กันยายน) ก็ได้ ทั้งนี หากผู้ทรงนาตั๋วไปยืนให้ผู้จายรับรองวันที 15 สิงหาคมฯ แต่ผู้จายปฏิเสธทีจะ
็
่
่
รับรอง ผู้ทรงก็ไม่จ าเปนต้องรีบนาตั๋วไปท าค าคัดค้านวันที 15 สิงหาคมฯ (หรือ 3 วันหลังจากวันที 15) ก็
่
ได้ ผู้ทรงสามารถนาตั๋วไปท าค าคัดค้านได้ภายในวันที 3 กันยายนฯ เพราะมาตรา 960 วรรคสาม
ก าหนดว่า “ต้องท าภายในจ ากัดเวลาซึ่งก าหนดไว้เพื่อนการยื่นให้รับรอง หรือ ภายในสามวันต่อแต่นั้น
ไป”
่
่
้
(2) กำรคัดคำนกำรไมใชเงิน กรณีนีต้องท าภายในเวลาทีมีการก าหนดให้นาตั๋วไปใช้เงิน หรือ
้
้
่
ี่
ภายในเวลา 3 วันหลังจากนั้นตามมาตรา 960 วรรคสอง เช่น ตัวอย่ำงท 9.2 ผู้สั่งจายออกตั๋วแลกเงิน
่
โดยก าหนดให้ผู้จ่าย จ่ายเงินวันที 31 สิงหาคมฯ ดังนี หากผู้ทรงนาตั๋วฉบับนไปยื่นให้ผู้จายจายเงิน แต่ผู้
่
่
้
ี
้
่
่
่
้
่
จายปฏิเสธการจายเงิน ก่อนทีผู้ทรงจะไล่เบี้ยบุคคลทีลงชือในตั๋วเงินให้รับผิดตามเนือความในตั๋วเงินได้
่
่
ผู้ทรงต้องนาตั๋วไปท าค าคัดค้านวันที 31 สิงหาคมฯ หรือ 3 วันหลังจากนั้น (คือ วันที 1-2-3 กันยายนฯ)
่
่
(3) กำรคัดคำนในกรณมำตรำ 959 ข)(2) ในกรณีทีผู้จ่ายตกเปนคนล้มละลาย หรือ งดเว้นการ
็
้
ี
ใช้หนี หรือ การบังคับช าระหนีไม่เปนผล โดยกฎหมายได้ก าหนดว่า ผู้ทรงจะยังไล่เบียไม่ได้จนกว่าจะยื่น
็
้
้
้
่
ตั๋วเงินให้ผู้จายใช้เงิน และได้ท าค าคัดค้าน ดังนั้น ตามกฎหมายตั๋วเงินผู้ทรงตั๋วแลกเงินต้องนาตั๋วไปยื่น
่
่
่
้
่
ให้ผู้จาย โดย ศ. ม.ร.ว. เสนีย์ฯ ได้อธิบายว่า ผู้ทรงยังคงต้องนาตั๋วนีไปยืนให้ผู้จายใช้เงินก่อนอยูดี
ั
่
่
เพราะผู้จายอาจมีปญหาทางการเงินซึ่งเข้าเงือนไขของมาตรานี แต่ผู้จ่ายอาจจะยังพอมีเงินทีจะจายตาม
่
้
่
่
่
่
่
ตั๋วแลกเงินได้อยู เพราะผู้จายอาจจะยอมจายเงินไปเพื่อปองกันไมให้คูสัญญาคนอืนๆ เดือดร้อนต้องถูก
่
้
่
149
้
็
ฟองคดีก็เปนได้
้
9.2.1.2 บุคคลผู้มีอ ำนำจท ำค ำคัดคำน
ส าหรับบุคคลที่มีอ านาจในการท าค าคัดค้าน มาตรา 961 ได้ก าหนดให้บุคคลที่มีอ านาจในการ
ท าค าคัดค้านในมาตรา 961 คือ นายอ าเภอ (หรือผู้ท าการแทนนายอ าเภอ) หรือ ทนายความผู้ได้รับ
่
อนญาต ทั้งนี ในประเด็นเรืองเจ้าหนาทีผู้ท าค าคัดค้านนีมีข้อสังเกตนาสนใจของคุณสุมิตรา ชืนชม
่
ุ
่
้
้
่
้
150
่
ชาติ ทีได้ท าการศึกษาวิจัยเกียวกับการท าค าคัดค้านตามกฎหมายตั๋วเงิน โดยได้สอบถามไปยัง
่
้
เจ้าหนาที่ในที่ท าการเขต พบว่าเจ้าหนาที่ผู้มีอ านาจเองยังไมทราบหรือไมเข้าใจว่า ค าคัดค้านคืออะไร
่
้
่
่
้
ุ
และต้องท าอย่างไร นอกจากนี ในเรื่องทนายความทีขึนทะเบียนเปนทนายความทีได้รับอนญาตให้ท าค า
้
็
่
้
่
คัดค้านก็มีจ านวนไมมาก คุณสุมิตราฯ จึงเห็นว่า การทีกฎหมายตั๋วเงินก าหนดให้บุคคลเหล่านีเปนผู้ท า
็
่
็
ค าคัดค้านอาจจะไมเหมาะสมนัก เพราะผู้ทรงอาจจะหาตัวผู้มีอ านาจท าค าคัดค้านไมได้อันเปนผลให้ผู้
่
่
้
่
149 เสนีย์ ปราโมช (อ้างแล้วเชิงอรรถที 16) หนา 119
์
150 สุมิตรา ชื่นชมชาติ, ‘การท าค าคัดค้านตั๋วเงิน’ (นิติศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย 2536)
120
เอกสารประกอบการสอนวิชากฎหมายว่าด้วยตั๋วเงิน โดย อ. ดร. ชีวิน มัลลิกะมาลย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์