Page 26 -
P. 26

ิ
                                            ิ
                               ื
                                                                 ิ
                 โครงการหนังสออเล็กทรอนกสด้านการเกษตร เฉลมพระเกียรตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
                                               ์
                                                                             ิ
                                                                                                       1-2

                       การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินจากพื้นที่การเกษตรไปใช้เพื่อกิจกรรมอื่นๆ นอกการเกษตรนั้น
               มีผลกระทบ 2 ประการคือ (1) ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และ(2) ผลกระทบต่อครัวเรือนเกษตรกรที่ท า

               การเกษตรอยู่ในปัจจุบัน
                       กรณีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ส าคัญที่จะยกมาเป็นกรณีตัวอย่าง คือ พื้นที่นาข้าวที่มีเนื้อที่เพียง
               2.71 ล้านไร่ หรือร้อยละ 12.61 ของพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ าและจัดไว้เป็น “ระบบนิเวศนาข้าว”
               ที่มีห่วงโซ่อาหารต่อแมลงหลายชนิด หากมีการเปลี่ยนแปลงไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นจะมีผลต่อแมลงที่อาศัย

               “ระบบนิเวศนาข้าว” เป็นแหล่งอาหารเมื่อแมลงขาดอาหารก็อาจจะไปท าลายพืชชนิดอื่นๆ
                       ผลกระทบอีกประการหนึ่งคือ ผลกระทบต่อครัวเรือนเกษตรที่มีจ านวน 302,225 ครัวเรือน
               และประกอบอาชีพอยู่ในปัจจุบัน ทั้งการผลิตพืชอาหาร พืชอุตสาหกรรม เลี้ยงสัตว์ และการประมง อาจจะถูก
               เวนคืนที่ดินที่ใช้อยู่เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานรองรับโครงการ หรือมีผลกระทบจากโรงงานที่จะมาตั้งใกล้เคียง

               ท าให้ครัวเรือนเกษตรกรบางส่วนต้องเลิกท าการเกษตร ซึ่งเป็นการเปลี่ยนวิถีการด ารงชีวิตโดยสิ้นเชิง
                       เพื่อลดผลกระทบทั้งสองประการนี้ รวมทั้งแก้ไขปัญหาการร้องเรียนจากประชาชนให้ปรับปรุงผังการ
               ใช้ประโยชน์ในที่ดินที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพื้นที่พิเศษภาคตะวันออกประกาศไปแล้วนั้น มีความ
               จ าเป็นต้องสร้างเครื่องมือที่ยึดศักยภาพของดิน สิ่งแวดล้อมและทัศนคติของครัวเรือนเกษตรในพื้นที่เป็นหลัก

               โดยการจ าแนกพื้นที่การเกษตรออกเป็น พื้นที่ที่มีศักยภาพสูง ศักยภาพปานกลางและศักยภาพต่ า และน า
               ข้อมูลนี้ส่งให้กับหน่วยงานที่มีอ านาจอนุญาตการก่อสร้างในพื้นที่ที่ก าหนดไว้เป็นพื้นที่ประเภทชุมชนชนบท
               (ชบ.) และประเภทส่งเสริมเกษตรกรรม (สก.) ให้รักษาพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงและปานกลางไว้ให้มากที่สุด

               ขั้นตอนต่อมาคือการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรมที่มีศักยภาพสูงและปานกลาง โดยมีการสนับสนุนจากภาครัฐโดย
               วิธีการต่างๆ เช่นการซื้อสิทธิในการพัฒนา (Purchase Development Right) หรือการสร้างภาระจ ายอม
               (Easement) โดยความยินยอมของครัวเรือนเกษตร แล้วสนับสนุนให้ใช้พื้นที่ที่คุ้มครองไว้เพื่อการเกษตร
               เป็น Food Valley ในการผลิตวัตถุดิบส่งให้กับโรงงานอุตสาหกรรมอาหารไปแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าให้สูงขึ้น
               จะท าให้ครัวเรือนเกษตรที่ประสงค์จะท าการเกษตรต่อไปไม่เปลี่ยนวิถีชีวิตดั้งเดิมที่ด ารงอยู่ แต่จะมีความมั่นคง

               มากขึ้น อย่างไรก็ตามการด าเนินการแก้ไขปัญหาดังที่กล่าวมานี้มีขอบเขตที่กว้างขวาง มีรายละเอียดการ
               ด าเนินงานจ านวนมาก มีความจ าเป็นต้องมีการศึกษาเพื่อให้สามารถด าเนินการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรมที่
               เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมอาหาร ในภาคตะวันออกได้


               1.2 วัตถุประสงค์
                       1.2.1 เพื่อทบทวนที่มาและวัตถุประสงค์ของโครงการพัฒนาของรัฐในพื้นที่ภาคตะวันออกจากอดีตถึง

               ปัจจุบัน
                       1.2.2 เพื่อประเมินศักยภาพพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ภาคตะวันออก
                       1.2.3 เพื่อทบทวนการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรมในประเทศไทย
                       1.2.4 เพื่อทบทวนการจัดตั้ง Food Valley ในประเทศไทย

                       1.2.5 เพื่อทบทวนประสบการณ์นานาชาติในการคุ้มครองพื้นที่การเกษตรและการจัดตั้ง Food
               Valley
                       1.2.6 เพื่อถอดบทเรียนผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินโครงการพัฒนาภาคตะวันออก
               (Eastern Seaboard)

                       1.2.7 จัดท าแนวทางการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออกที่เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรม
               อาหาร
   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31