Page 15 -
P. 15

ิ
                              ื
                                                                                ิ
                                               ์
                                           ิ
                                 ิ
              โครงการหนังสออเล็กทรอนกสด้านการเกษตร เฉลมพระเกียรตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                        สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)


                         ประเทศไทยมีอตสาหกรรมและการค้าที่ใช้ผลผลิตจากต้นไม้เป็นฐานการผลิตหลายประการ เช่น
                                      ุ
                                                                                                   ั
                 อตสาหกรรมก่อสร้าง เครื่องเรือนและผลิตภัณฑอนๆ ที่ใช้ไม้เป็นวัตถุดิบ เช่น ไม้แปรรูป ไม้ท่อน ไม้อด แผ่นไม้
                                                          ื่
                   ุ
                                                        ์
                                                                             ื
                                                     ้
                 ประกอบ อตสาหกรรมพลังงานและโรงไฟฟาชีวมวล ใช้วัตถุดิบ เช่น ไม้ฟน ถ่าน ชิ้นไม้สับ ไม้เพลเล็ต (Wood
                           ุ
                                                                                            ี
                          ุ
                                                                      ุ
                 pellet) อตสาหกรรมเยื่อและกระดาษ เส้นใยเรยอน (Rayon) อตสาหกรรมการผลิตสารเคม เช่น ยา สมุนไพร
                 น้ำส้มควันไม้ (Wood vinegar) ตัวยารักษาเนื้อไม้ (Wood tar creosote) แอลกอฮอล์ (Ethanol and
                 Methanol) และสารเคมีต่างๆ และอตสาหกรรมอนๆ ที่ผลิตจากวัตถุดิบที่ไม่ใช่ไม้ เช่น ยางพารา หวาย ครั่ง
                                                          ื่
                                               ุ
                                                   ุ
                 น้ำผึ้ง น้ำลูกสำรอง น้ำฝาง เป็นต้น ซึ่งอตสาหกรรมเหล่านี้ ใช้ผลผลิตจากต้นไม้ที่ผ่านการรับรองการจัดการ
                                                                 ื่
                                                        ั
                 ป่าไม้จำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศที่พฒนาแล้วอนๆ โดยจากงานวิจัยของ ขวัญชัย และคณะ (2563ก)
                 แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีพนที่สวนไม้เศรษฐกิจที่มีการจัดการได้รับการรับรองตามมาตรฐานระดับนานาชาติ
                                          ื้
                 เพยง 356,638 ไร่ ครอบคลุมเพยง 3 ชนิดไม้ ได้แก่ สัก (197,358.50 ไร่) ยูคาลิปตัส (50,073.69 ไร่) และ
                                            ี
                    ี
                 ยางพารา (109,206 ไร่) หรือกล่าวอกนัยหนึ่งคือ มีสวนยางพาราที่ยังไม่ผ่านมาตรฐานสากลถึง 99.6% ซึ่งการ
                                                ี
                 รับรองป่าไม้ (Forest Certification) จำแนกได้ 2 ประเภท คือ การรับรองการจัดการป่าไม้ (FM-Forest
                 Management Certification) และการรับรองกระบวนการผลิ ผ ลิตภัณฑ์ (COC-Chain of Custody
                                                                          ต
                 Certification) มีองค์กรที่ให้การรับรองที่สำคัญ คือ Forest Stewardship Council (FSC) ผลของกลไกนี้จะมี
                 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและการค้าที่ใช้ไม้ในการผลิต เพราะประเทศผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์จากไม้อาจมี

                 นโยบายนำเข้าเฉพาะผลิตภัณฑ์ทได้รับการรับรองแล้วเท่านั้น
                                             ี่


                         ในส่วนของมาตรฐานการรับรองการจัดการป่าไม้ของ FSC นั้นประกอบด้วย 10 หลักการ

                 (Principles) 70 เกณฑ์ (Criteria) และ 211 ตัวชี้บอก (Indicators) ซึ่งครอบคลุมหลักสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่
                 ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม (เวอร์ชั่น 5 Document reference code: FSC-STD-01-

                 001 V5-2 EN, FSC-STD-60-004 V2-0 EN) (FSC, 2015, 2018b) โดยหลักการแรกทสำคัญคือ หลักการที่ 1:
                                                                                        ี่
                 ความสอดคล้องกับกฎหมาย โดยมีเกณฑ์ที่ 1.2 บัญญัติไว้ว่า องค์กรต้องแสดงให้เห็นว่าสถานะทางกฎหมาย

                 ของหน่วยจัดการรวมถึงสิทธิในการครอบครองและการใช้ประโยชน์ และขอบเขตของหน่วยจัดการมีการ

                 กำหนดไว้อย่างชัดเ น  (1.2 The Organization shall demonstrate that the legal status of the
                                    จ
                 Management Unit, including tenure and use rights, and its boundaries, are clearly defined.)

                 ซึ่งจากการรับรองการจัดการป่าไม้ในประเทศไทย ในช่วงปี พ.ศ. 2554-2561 ขวัญชัย และคณะ (2563ก)

                 พบว่า ในหลักการที่ 1 พบจำนวน Major CARs และ Minor CARs จำนวนมาก นอกจากนี้ ในหลักการที่ 6
                 เกณฑ์ที่ 6.10 ยังบัญญัติไว้ว่า FSC จะไม่ให้การรับรองสวนไม้เศรษฐกิจที่อยู่ในที่ดินที่มีการเปลี่ยนพนที่ป่า
                                                                                                      ื้
                 ธรรมชาติมาเป็นสวนไม้เศรษฐกิจหลังเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2537 เว้นแต่มีหลักฐานยืนยันอย่างชัดเจนและ

                 เพยงพอว่าผู้ขอการรับรองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนพื้นที่ป่าดังกล่าวทั้งทางตรงและทางอ้อม หรือ ต้อง
                    ี
                 แสดงหลักฐานที่ชัดเจน เพียงพอ และมีความน่าเชื่อถือถึงการคมครองประโยชน์ด้านการอนุรักษ์ในระยะยาวใน
                                                                     ุ้

                                                              2
   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20