Page 16 -
P. 16

1 6 : F a c u l t y   o f   M a n a g e m e n t   S c i e n c e s
                                            คลังความรดจทัลและจดหมยเหต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร
                                                                                                                                                                                                   ์
                                                                                                                               ุ
                                                                        ้
                                                                            ิ
                                                                               ิ
                                                                        ู
       การตีความตามตัวอักษร: ทางออกของ Civil Law
                                                                                                                                                                                 ุ
                                                                                                                                                                          ุ
                                                                                                                                                  ผศ.พชร สขสเมฆ
                                                                                                                                                                                                                  (Civil
              กฎหมายของไทยเป นระบบกฎหมายที เรียกว่า
                                                                                                                             “ระบบกฎหมายลายลักษณ์อักษร”
              Law)  กล่าวคือ  บรรดาบทบัญญัติที มีสถานะเป นกฎหมายและมีอํานาจในทางนิติบัญญัติต่อ
              ทั งการบังคับใช้  และลงโทษล้วนอยู่บนพ นฐานสาคัญ  คือ  การกระทําที เป นความผิด  และ
                                                                                                                             ํ
                                                                                                            ื
              ลงโทษได้นั น  ต้องเป นกรณีที กฎหมายได้มีการ  “บัญญัติไว้ว่าการกระทํานั น  ๆ  เป นความผิด
              โดยโทษที จะลงแก่ผู้กระทําการอันเป นความผิดก็ต้องเป นโทษตามที กฎหมายได้บัญญัติไว้
              อย่างชัดแจ้ง”
                                             กฎหมายไทยได้ให้ความชัดเจนว่าจะวินิจฉัยว่าบุคคลใดกระทําการอันเข้าข่ายต่อ
              เห็นได้ว่า
              ความผิดที สามารถลงโทษได้นั น  ต้องเป นการกระทําที กฎหมายบัญญัติไว้ให้เห็นเป นประจักษ
              ไม่ว่าจะเป นความผิดตามที บัญญัติในกฎหมายที เกี ยวกับการค้าพาณิชย์  (กฎหมายแพงและ
                                                                                                                                                                                                                   ่
              พาณิชย์) หรือกฎหมายที ลงโทษต่อเนื อตัวร่างกายของผู้กระทําความผิด (กฎหมายอาญา)
                                                                                                                                                                                                    เพราะทุกคน
              แม้ความชัดเจนในระบบกฎหมายลายลักษณ์อักษรจะมีประโยชน์ในทางปฏิบัติ
              ย่อมสามารถทําความเข้าใจในลายลักษณ์อักษรที ปรากฏในกฎหมายประเภทต่าง  ๆ  ได้  แต่                                                                                                                                   ์
              เป นไปได้ที ในบางครั ง  (และหลายครั ง)  ที ถ้อยคําที เป นลายลักษณ์อักษรที ปรากฏในกฎหมาย
              นั นอาจมีความไม่ชัดเจนและนํามาซึ ง “ป ญหาการตีความและการบังคับใช้กฎหมาย”
                                                                                                                                       ่
               ตัวอย่างเช่น  กรณีมาตรา  ๑๕๐  ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย์ที บัญญัติในประเด็นเกี ยว
               กับการทํานิติกรรมไว้ว่า
                                                                                                                                                                                           ้
                                                                                                                                                                                                     ั
                            “การใดมีวัตถุประสงค์เป นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย                                                                                       เป นการพนวิสยหรือ
                                                                                                                  ี
                            เป นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศลธรรมอันดีของประชาชน การนั นเป นโมฆะ”
               บทบัญญัตินี   มีถ้อยคําที อาจเกิดป ญหาต่อการใช้บังคับ  เนื องด้วยคําว่า  “ศลธรรมอันดีของ
                                                                                                                                                                                           ี
               ประชาชน”  นั น  หมายความถึง  ศลธรรมในอิทธิพลของศาสนาและ/หรือศลธรรมที เกิดขึ นมา
                                                                                                                                                                                      ี
                                                                                           ี
                                                                                                                                                             ิ
               จากบริบทของสงคมของประชาชน  ซึ งกรณีนี   หากเกิดข้อพพาทขึ นมา  จะทําให้เกิดข้อโต้
                                                    ั

               เถียง หรือข้อโต้แย้งในการวินิจฉัยการบังคับใช้มาตรานี ได้





              ป ญหาที เกิดขึ นนี   Civil  Law  ได้มีทางออกไว้แล้ว  ในมาตรา  ๔  ประมวลกฎหมายแพงและ
                                                                                                                                                                                                                   ่


              พาณิชย์  บัญญัติว่า  “กฎหมายนั น  ต้องใช้ในบรรดากรณีซึ งต้องด้วยบทบัญญัติใด  ๆ  แห่ง



              กฎหมายตามตัวอักษร  หรือตามความมุ่งหมายของบทบัญญัตินั น  ๆ  เมื อไม่มีบทกฎหมายที


              จะยกมาปรับคดีได้  ให้วินิจฉัยคดีนั นตามจารีตประเพณีแห่งท้องถิ น  ถ้าไม่มีจารีตประเพณี



                                                                             ั
              เช่นว่านั น  ให้วินิจฉัยคดีอาศยเทียบบทกฎหมายที ใกล้เคียงอย่างยิ ง  และ  ถ้าบทกฎหมายเช่น


              นั นก็ไม่มีด้วย ให้วินิจฉัยตามหลักกฎหมายทั วไป”






              โดยความเห็นของผู้เขียน  เห็นว่า  ทางออกในการตีความตัวบทกฎหมายใน  Civil  Law  นี   ยัง


                                                             ่
              เป นทางออกที นําไปสประเด็นที น่าสนใจ  คือ  เมื อทางออกมีหลายทาง  แล้วจะใช้ทางออกทาง
                                                             ู

              ไหน และจะใช้อย่างไรให้เป นไปด้วยความเป นธรรมและเป นคุณแก่ป ญหาที เกิดขึ น
   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21