Page 247 -
P. 247

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว



               with 20 8 and 4 percent, respectively. Crop nutrient requirement in big kenoo chili was 18.61 16.21
               13.68 4.86 and 4.05 kilogram N K 2O CaO MgO and P 2O 5 /rai, respectively.

               Key words: Big kenoo chili (Capsicum annuum L.), chemical fertilizer, organic fertilizer, Western Thailand


                                                             บทคัดย่อ
                       การศึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์กับพริกขี้หนูผลใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันตก ณ
               ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ดำเนินการทดลองในปี 2560-2562 ใช้แผนการทดลองแบบ
               2x2x2+1 Factorial in RCB ประกอบด้วย 3 ปัจจัย โดยปัจจัยที่ 1 ปุ๋ยไนโตรเจน 2 ระดับ คือ 10 และ 20 กิโลกรัม N

               ต่อไร่ ปัจจัยที่ 2 ปุ๋ยฟอสเฟต 2 ระดับ คือ 5 และ 10 กิโลกรัม P 2O 5 ต่อไร่  และ ปัจจัยที่ 3 ปุ๋ยโพแทช 2 ระดับ คือ 12
               และ 24 กิโลกรัม K 2O ต่อไร่ รวม 9 กรรมวิธี 3 ซ้ำ ประกอบด้วย 1) 0-0-0 กิโลกรัม N-P 2O 5-K 2O ต่อไร่ 2) 10-5-12
               กิโลกรัม N-P 2O 5-K 2O ต่อไร่ 3) 10-5-24 กิโลกรัม N-P 2O 5-K 2O ต่อไร่ 4) 10-10-12 กิโลกรัม N-P 2O 5-K 2O ต่อไร่ 5) 10-
               10-24 กิโลกรัม N-P 2O 5-K 2O ต่อไร่ 6) 20-5-12 กิโลกรัม N-P 2O 5-K 2O ต่อไร่ 7) 20-5-24 กิโลกรัม N-P 2O 5-K 2O ต่อไร่
               8) 20-10-12 กิโลกรัม N-P 2O 5-K 2O ต่อไร่ และ 9) 20-10-24 กิโลกรัม N-P 2O 5-K 2O ต่อไร่ โดยทุกกรรมวิธีใส่ปุ๋ยมูลวัว
               อัตรา 1,000 กิโลกรัมโดยน้ำหนักแห้งต่อไร่
                       ผลการทดลองพบว่าการผลิตพริกขี้หนูผลใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันตก ให้ใส่ปุ๋ย 10-10-12 กิโลกรัม N-P 2O 5-K 2O
               ต่อไร่ ร่วมกับปุ๋ยมูลวัวอัตรา 1,000 กิโลกรัมโดยน้ำหนักแห้งต่อไร่ ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุนเพราะให้ผลตอบแทนในค่า
               VCR สูงสุด และให้ผลผลิตน้ำหนักสดพริก 1,418 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งให้ผลเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับน้ำหนักสดต้น
               น้ำหนักแห้งตอซัง น้ำหนักแห้งผล สัดส่วนความเข้มข้นของธาตุอาหารที่สะสมอยู่ในส่วนลำต้น+ใบ N>K>Ca>Mg>P และ
               มีปริมาณลดลงตามระยะการเจริญเติบโตที่เพิ่มขึ้น ยกเว้นแคลเซียมซึ่งมีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นตามระยะการเจริญเติบโตที่
               เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้พบว่า ช่วงออกดอก-ช่วงพัฒนาผล ปริมาณการดูดใช้ธาตุอาหารไนโตรเจนและโพแทสเซียมในต้น
               และผลไม่แตกต่างกัน (34 และ 34 เปอร์เซ็นต์) แต่สูงกว่าแคลเซียม ฟอสฟอรัสและแมกนีเซียม (20 8  และ 4 เปอร์เซ็นต์
               ตามลำดับ)  ความต้องการธาตุอาหารของพริกขี้หนูผลใหญ่ สำหรับไนโตรเจน โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียมและ

               ฟอสฟอรัส เท่ากับ 18.61 16.21 13.68 4.86 และ 4.05 กิโลกรัม N K 2O CaO MgO และ P 2O 5 ต่อไร่ ตามลำดับ
               คำหลัก: พริกขี้หนูผลใหญ่ ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ ภาคตะวันตก
                                                           คำนำ
                      ประเทศไทยมีมูลค่าการส่งออกพริกและผลิตภัณฑ์ของพริกในปี 2556 ประมาณ  4.7  พันล้านบาท ส่วนการนำ

               เข้าพริกและผลิตภัณฑ์เป็นมูลค่า 1.5 พันล้านบาท (กรมศุลกากร, 2556) การผลิตพริกอย่างมีประสิทธิภาพสามารถเพิ่ม
               ผลผลิตและคุณภาพของพืชให้ตรงตามความต้องการและลดการนำเข้าได้ แต่องค์ความรู้การจัดการดินและการใช้ปุ๋ยที่ไม่
               ถูกต้อง เนื่องจากคำแนะนำการใช้ปุ๋ยสำหรับพริกในปัจจุบันไม่ได้เป็นคำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงกับพริก แต่เป็นคำแนะนำ
               เดียวกันกับการใช้ปุ๋ยกับมะเขือ มะเขือเทศ และ กระเจี๊ยบเขียว จึงอาจให้ธาตุอาหารไม่ตรงตามความต้องการของพริก
               อย่างแท้จริง อีกทั้งคำแนะนำดังกล่าวยังนำไปใช้กับการผลิตพริกในทุกพื้นที่ๆมีข้อจำกัดด้านสภาพภูมิอากาศและวัตถุต้น
               กำเนิดดิน การผลิตจึงมีประสิทธิภาพต่ำ การพัฒนาคำแนะนำการใช้ปุ๋ยกับพริกให้มีศักยภาพจำเป็นต้องมีข้อมูลปัจจัยการ
               ผลิตธาตุอาหารพืช ข้อมูลด้านดินและด้านพืชสำหรับเป็นข้อมูลพื้นฐานนำไปกำหนดการใส่ปุ๋ยให้เพียงพอกับความต้องการ
               สูงสุดในระยะเจริญต่างๆของพริก อีกทั้งข้อมูลความต้องการธาตุอาหารของพืชที่ประเมินจากปริมาณธาตุอาหารที่สูญเสีย
               ในพริกที่พบว่ายังมีไม่มากและไม่ครอบคลุมในแต่ละพื้นที่  เพื่อเป็นการให้ปุ๋ยในปริมาณที่ไม่มากหรือน้อยจนเกินไปอันอาจ
               ก่อผลเสียต่อการให้ผลผลิตที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม การมุ่งเน้นเพียงแต่การใช้ปุ๋ยเคมีเป็นการจัดการดินในระยะสั้นและไม่
               ยั่งยืน การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ยเคมีโดยจัดการร่วมกับใช้ปุ๋ยอินทรีย์ให้เหมาะสม เป็นแนวทางจัดการปุ๋ยให้ธาตุ
               อาหารในดินอีกแนวทางหนึ่ง ดังนั้น ความจำเป็นในการศึกษาวิจัยเพื่อทราบถึงความต้องการธาตุอาหารและการ


                                                          239
   242   243   244   245   246   247   248   249   250   251   252