Page 116 -
P. 116
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เมื่อสอบถำมถึงผลกระทบโดยรวมในทำงบวกหรือลบ ต่อกำรเข้ำมำลงทุนของผู้ประกอบกำรจีน (ล้ง
จีน) รวมถึงควำมเห็นว่ำรัฐบำลควรให้ชำวจีนเข้ำมำด ำเนินธุรกิจล้งในประเทศไทยหรือไม่ จำกผลกำรส ำรวจใน
ตำรำงที่ 4.3.16 พบว่ำเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนส่วนใหญ่ร้อยละ 52.50 เห็นว่ำกำรเข้ำมำของล้งจีนมีผลกระทบ
ทำงบวกร้อยละ 32.50 เห็นว่ำมีผลในทำงลบ และร้อยละ 15 คิดว่ำไม่มีผลกระทบ ในเรื่องควำมเห็นว่ำรัฐบำล
ควรให้ล้งจีนเข้ำมำด ำเนินธุรกิจในประเทศไทยหรือไม่ เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนส่วนมำกร้อยละ 66 เห็นว่ำ
รัฐบำลควรให้ล้งจีนเข้ำมำด ำเนินธุรกิจในประเทศไทย ในขณะที่ร้อยละ 34 เห็นว่ำรัฐบำลไม่ควรให้ล้งจีนเข้ำ
มำด ำเนินธุรกิจในประเทศไทย
ส ำหรับเกษตรกรผู้ปลูกมังคุดนั้นร้อยละ 49.32 ของเกษตรกรเห็นว่ำกำรเข้ำมำของล้งจีนเกษตรกรมี
ผลทำงบวกร้อยละ 36.30 มีผลทำงลบ และที่เหลือร้อยละ 14.38 เห็นว่ำไม่มีผลกระทบ นอกจำกนั้น
เกษตรกรผู้ปลูกมังคุดร้อยละ 60 เห็นว่ำรัฐบำลควรให้ล้งจีนเข้ำมำด ำเนินธุรกิจในประเทศไทย และเพียง
ร้อยละ 40 เห็นว่ำรัฐบำลไม่ควรให้ล้งจีนเข้ำมำด ำเนินธุรกิจในไทย ซึ่งควำมเห็นของเกษตรกรผู้ปลูกมังคุด
ค่อนข้ำงสอดคล้องกับผู้ปลูกทุเรียน
ส่วนควำมเห็นของเกษตรกรผู้ปลูกล ำไย มีเพียงร้อยละ 35.14 ของเกษตรกรเห็นว่ำกำรเข้ำมำของล้ง
จีนมีผลกระทบทำงบวก เกษตรกรผู้ปลูกล ำไยส่วนใหญ่ร้อยละ 54.05 เห็นว่ำมีผลกระทบในทำงลบ และส่วนที่
เหลือร้อยละ 10.81 เห็นว่ำไม่มีผลกระทบ แต่อย่ำงไรก็ตำม เกษตรกรผู้ปลูกล ำไยร้อยละ 62.16 ยังเห็นว่ำ
รัฐบำลควรให้ล้งจีนเข้ำมำด ำเนินธุรกิจในประเทศไทยได้ และร้อยละ 37.84 เห็นว่ำรัฐบำลไม่ควรชำวจีนเข้ำมำ
ประกอบธุรกิจล้งในประเทศไทย ซึ่งผลดังกล่ำวนี้อำจสอดคล้องกับกำรที่เกษตรกรผู้ปลูกล ำไยมีช่องทำงกำร
จ ำหน่ำยที่ลดกำรพึ่งพำล้งจีนที่มีแนวโน้มลดลง และกำรประกอบกำรของล้งจีนเป็นทำงเลือกในกำรขำยผลผลิต
ของเกษตรกรซึ่งจะท ำให้มีกำรแข่งขันด้ำนรำคำในกำรรับซื้อผลผลิตรัฐบำลจึงไม่ควรห้ำมกำรเข้ำมำด ำเนิน
ธุรกิจของล้งจีน
ส ำนักงำนกองทุนสนับสนุนกำรวิจัย 104 สถำบันบัณฑิตพัฒนบริหำรศำสตร์
ฝ่ำยเกษตร