Page 81 -

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

47

และกำรรับจ้ำงในภำคเกษตรลดลงเมื่อเทียบกับปี 2552 ร้อยละ 11.43 และ 9.54 ตำมล ำดับ ในขณะที่มี

สัดส่วนรำยได้จำกกำรรับจ้ำงนอกภำคเกษตรมำกขึ้นร้อยละ 11.86 สัดส่วนรำยได้นี้แสดงให้เห็นว่ำ 10 ปีที่
ผ่ำนมำครัวเรือนในพื้นที่กำรศึกษำมีรำยได้จำกนอกภำคกำรเกษตรมำกยิ่งขึ้น โดยหันไปรับจ้ำงนอกภำค

กำรเกษตรแทนกำรท ำกำรเกษตรของตนเองหรือกำรรับจ้ำงในภำคเกษตร

ตารางที่ 3.10 สัดส่วนรำยได้สุทธิของครัวเรือน ของครัวเรือนในหมู่บ้ำนซับเจริญ จังหวัดเพชรบูรณ์ ปี 2552
และ 2561

สัดส่วนรายได้
แหล่งรายได้สุทธิของครัวเรือน
2552 2561 แตกต่าง

ในภาคเกษตร 57.31 43.17 (14.14)

กำรเพำะปลูกพืช 34.09 22.66 (11.43)

กำรปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์จำกสัตว์ (1.27) 6.47 7.74

กำรเก็บเกี่ยวทรัพยำกรธรรมชำติ 1.95 1.05 (0.91)

แรงงำนรับจ้ำงในภำคเกษตร 22.54 13.00 (9.54)

นอกภาคเกษตร 42.69 56.83 14.14

แรงงำนรับจ้ำงนอกภำคเกษตร 8.18 20.04 11.86

ธุรกิจส่วนตัว 15.35 15.92 0.57
กำรส่งเงินจำกคนในครัวเรือนที่ย้ำยถิ่น 10.64 8.54 (2.09)

กำรส่งเงินจำกญำติและเพื่อน 0.89 3.91 3.02

เงินช่วยเหลือจำกรัฐบำล 6.64 6.69 0.05

เงินได้จำกค่ำเช่ำที่ดิน 0.99 1.72 0.73

รายได้สุทธิรวม 100.00 100.00

ที่มำ: จำกกำรค ำนวณ

เมื่อวิเครำะห์ควำมไม่เท่ำเทียมกันทำงรำยได้ด้วยค่ำสัมประสิทธิ์ควำมไม่เสมอภำค (Gini coefficient:

Gini) โดยที่ค่ำสัมประสิทธิ์ควำมไม่เสมอภำคนี้เป็นเครื่องมือในกำรวัดควำมไม่เท่ำเทียมในรูปของสัดส่วน

(Gini ratio) ซึ่งค่ำอยู่ระหว่ำง 0 กับ 1 ยิ่งค่ำเข้ำใกล้ 1 มำกเท่ำไร แสดงว่ำควำมไม่เท่ำเทียมกันของรำยได้ยิ่งมี
มำกขึ้น โดยค ำนวณจำกกำรใช้ค่ำของพื้นที่ระหว่ำง Lorenz curve ของกำรกระจำยรำยได้กับเส้นกำรกระจำย

รำยได้สัมบูรณ์เป็นตัวตั้ง และค่ำของพื้นที่ใต้เส้นกำรกระจำยรำยได้สัมบูรณ์ทั้งหมดเป็นตัวหำร