Page 71 -
P. 71

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

                               วันพัฒนาและปลูกต้นไม้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประจ าปี 2559
                               วันพัฒนาและปลูกต้นไม้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประจ าปี 2559
                               วันพัฒนาและปลูกต้นไม้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประจ าปี 2559


                                                                           ต้นช้างน้าว

                                                 ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ochna integerrima   (Lour.) Merr

                                                 ชื่อวงศ์ : OCHNACEAE

                                                 ชื่อสามัญ : Vietnamese Mickey Mouse plan

                                                 ชื่ออื่นๆ  :  กระแจะ (ระนอง) ก าลังช้างสาร (ภาคกลาง) ขมิ้นพระต้น
                                                 (จันทบุรี)  แง่ง (บุรีรัมย์) ช้างน้าว ตานนกกรด (นครราชสีมา) ช้างโน้ม
                                                 (ตราด) ช้างโหม (ระยอง) ตาลเหลือง (ภาคเหนือ) ฝิ่น (ราชบุรี)
                                                 ลักษณะทั่วไป : เป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก สูง 3-8 เมตร มีพุ่มใบและให้

                                                 ดอกสวยงาม สีเหลืองอร่ามหรือแดงเจิดจ้า ตั้งแต่ปลายฤดูหนาวจนถึงสิ้นฤดู
                                                 ร้อน เป็นไม้ที่ทนทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศ ตลอดจนไฟป่าได้ดีมาก สามารถ
                                                 ขึ้นได้ตามป่าผลัดใบได้ทุกภาคของประเทศ ตามปลายกิ่งจะมีกาบค่อนข้าง

                                                 แข็งปลายแหลมหุ้มตาอยู่ เมื่อผลัดใบหมดแล้ว จะเห็นปลายกิ่งแหลม นับได้
                                                 ว่าเป็นลักษณะส าคัญประจ าพันธุ์ไม้ชนิดนี้
                                                 ใบ :  ใบอาจมีทั้งรูปขอบขนาน รูปไข่กลับ กว้าง 4-7  ซม. ยาว 8-20  ซม.
                                                 ปลายใบเป็นติ่งแหลมมน หรืออาจเว้าเข้าเล็กน้อย ส่วนที่ค่อนไปทางปลายใบ

                                                 มักจะกว้างแล้วค่อยๆ สอบแคบมาทางโคนใบ เส้นแขนงใบละเอียดถี่ บางที

                                                  คล้ายกับหนามแหลมๆ ก็มี เนื้อใบเกลี้ยงเนียนเป็นมันทั้งสองด้าน ก้านใบยาว
                                                 ประมาณ 0.5 ซม. ถ้าขึ้นตามป่าผลัดใบในที่ค่อนข้างแห้งแล้งมักจะทิ้งใบก่อน
                                                 หรือในขณะออกดอก และถ้าอยู่ตามชายป่าดิบแล้งมักไม่ทิ้งใบ

                                                 ดอก : เป็นช่อเดี่ยวๆ รวมกันเป็นกระจุกตามกิ่ง ดอกบานเต็มที่กว้างประมาณ
                                                 4 ซม. กลีบรองกลีบดอกรูปขอบขนาน 5 กลีบ กลีบจะโค้งลงไปหาก้านดอก
                                                 และติดอยู่จนกระทั่งเป็นผล กลีบดอกสีเหลืองบอบบาง อาจมี 5-6-10  กลีบ
                                                 หลุดร่วงง่าย เกสรผู้มีมากรวมกันเป็นกระจุก ตรงกลางจะมีปลายหลอดท่อรัง

                                                 ไข่ยาวยื่นพ้นเกสรผู้ออกมา 1  อัน รังไข่มี 5-10  ช่อง แต่ละช่องมีไข่อ่อน 1
                                                 หน่วย ก้านดอกเรียวเล็ก ยาวประมาณ 4 ซม. โคนก้านมีกาบเล็กๆ หุ้มเมล็ด
                                                 ผล : มีเมล็ดสีเขียว 1-3 เมล็ด ติดอยู่บนฐานรังไข่ จะเปลี่ยนเป็นสีด า บนฐาน

                                                 สีแดงเมื่อแก่เต็มที่ ออกดอกเดือน มกราคม-พฤษภาคม
                                                 ประโยชน์ : ปลูกเป็นไม้ประดับใช้รากปรุงเป็นยาขับพยาธิ ท าให้น้ าเหลืองดี










              - ข้อมูลและรูปภาพจากเว็บไซต์ พระต าหนักจิตรลดารโหฐาน http://www.rspg.org/palace/chitralada/cld6-2_075.htm  และ  Medthai
              https://medthai.com/ช้างน้าว/








                                                                                                           62 62 62
                 กองยานพาหนะ อาคารและสถานที่ ส านักงานอธิการบดี
                 กองยานพาหนะ อาคารและสถานที่ ส านักงานอธิการบดี
                  กองยานพาหนะ อาคารและสถานที่ ส านักงานอธิการบดี
   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76