Page 32 -
P. 32

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี






                                     จุดเริ่มต้นของการประพันธ์เพลง







                     ศำสตรำจำรย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร (ขอเรียก  โดยท่ำนรับหน้ำที่เป็นผู้ตีกลองและยังได้เล่นเปียโน
                  สั้น ๆ ว่ำท่ำนอำจำรย์) เกิดที่จังหวัดแพร่ หนึ่งในจังหวัด  หรือออร์แกนได้บ้ำงด้วยกำรเรียนรู้เองเพื่อน�ำไปใช้กับ

                  ทำงภำคเหนือที่ยังรักษำขนบธรรมเนียมประเพณี  เพลงไทยสองชั้นที่ท่ำนชอบ ต่อมำศำสตรำจำรย์
                  ชำวเหนืออย่ำงเหนียวแน่น รวมถึงกำรรักษำและส่งเสริม    พนม สมิตำนนท์ มอบหมำยให้ท่ำนอำจำรย์ควบคุม
                  ด้ำนดนตรีไทยท้องถิ่นทำงเหนือด้วย มำรดำของท่ำน  กำรร�ำของคณะครูประชำบำลโดยใช้เพลงปลุกใจรักชำติ
                  อำจำรย์เป็นทั้งนักดนตรี (ตีฉิ่ง) และผู้ขับร้องส่งประจ�ำ    ของคุณหลวงวิจิตรวำทกำร จึงเป็นแรงบันดำลใจให้
                  วงข้ำรำชกำรจังหวัดแพร่ ท่ำนอำจำรย์จึงซึมซับดนตรี  ท่ำนอำจำรย์แต่งเพลงสำกล โดยบรรจุเนื้อร้องจำก
                  ไทยมำตั้งแต่วัยเด็ก ท่ำนได้ตำมพี่สำวไปฟังเพลงใน  พระรำชนิพนธ์ในพระบำทสมเด็จพระมงกุฎเกล้ำเจ้ำอยู่หัว
                  ละครของโรงเรียนตั้งแต่ยังไม่ได้เข้ำโรงเรียนและ  ในตอนที่ขึ้นต้นว่ำ “เรานี้เกิดมาแล้วชาติหนึ่ง”
                  สำมำรถจ�ำเพลงได้จนจบทั้งเรื่อง เมื่อเข้ำโรงเรียนแล้ว  แล้วส่งไปให้วงดนตรีสุนทรำภรณ์ ควำมสนใจด้ำน
                  ท่ำนอำจำรย์เรียนที่โรงเรียนพิริยำลัย จังหวัดแพร่   ดนตรีสำกลจึงมีจุดเริ่มต้นจริงจังเมื่อท่ำนอำจำรย์
                  จนจบมัธยมศึกษำปีที่ ๖ และโรงเรียนยุพรำชวิทยำลัย  มำสอนที่แม่โจ้นี่เอง
                  จังหวัดเชียงใหม่ จนจบมัธยมศึกษำปีที่ ๘ ท่ำนท�ำ  ปี พ.ศ. ๒๔๘๖-๒๔๙๔ ท่ำนอำจำรย์กลับมำ
                  หน้ำที่เป็นหัวหน้ำลูกคู่ร่วมร้องเพลงในวงดนตรี  สอนที่มหำวิทยำลัยเกษตรศำสตร์ ท�ำให้ได้ใกล้ชิด
                  ทั้งสองโรงเรียนตลอดมำ ด้วยเหตุที่ท่ำนอำจำรย์รู้จัก  สนิมกันมำกกับศำสตรำจำรย์ ดร.อุทิศ นำคสวัสดิ์
                  เพลงไทยเดิมสองชั้นมำกกว่ำ ๒๐๐ เพลง ท่ำนจึงท�ำ  ผู้เชี่ยวชำญด้ำนดนตรีไทยเป็นอย่ำงยิ่ง และในปี พ.ศ.

                  หน้ำที่บรรจุเนื้อร้องเพลงละครให้ทั้งโรงเรียนยุพรำช  ๒๔๙๔-๒๕๐๐ ทั้งสองท่ำนต่ำงก็ได้รับทุนไปศึกษำต่อ
                  วิทยำลัยและโรงเรียนวัฒโนทัยพำยัพ กล่ำวได้ว่ำ ชีวิต  ยังประเทศสหรัฐอเมริกำ ท่ำนอำจำรย์ทั้งสองจึงร่วมกัน
                  ของท่ำนอำจำรย์เริ่มต้นจำกดนตรีไทยและท่ำนมี  น�ำดนตรีไทยไปแสดงให้ชำวต่ำงชำติได้ประจักษ์
                  ควำมรักดนตรีไทยจนตลอดชีวิตของท่ำน           ในควำมไพเรำะของเครื่องดนตรีไทย โดยศำสตรำจำรย์
                     ท่ำนอำจำรย์มำเรียนมัธยมศึกษำปีที่ ๘ อีกครั้งที่  ดร.อุทิศ นำคสวัสดิ์ จะเดี่ยวซอสำมสำยหรือขลุ่ย
                  โรงเรียนสวนกุหลำบวิทยำลัยด้วยมีเป้ำหมำยจะสอบ    ท่ำนอำจำรย์จะท�ำหน้ำที่ขับร้อง และเมื่อกลับมำ
                  ชิงทุนกำรศึกษำไปเรียนต่อต่ำงประเทศ เป็นครั้งแรก  เมืองไทยแล้ว ทั้งสองท่ำนได้น�ำดนตรีไทยไปบรรเลง
                  ที่ท่ำนทดลองประพันธ์เพลงไทยสำกลเป็นเพลงเชียร์  ทั้งในโรงเรียนและมหำวิทยำลัยต่ำง ๆ จนท�ำให้มี
                  ให้โรงเรียนสวนกุหลำบวิทยำลัยในขณะที่ท่ำนยังไม่รู้  กำรตั้งวงดนตรีไทยในสถำบันกำรศึกษำกันอย่ำง
                  หลักในกำรแต่งเพลงไทยสำกลเลย (แล้วก็หยุดไป)  แพร่หลำยในเวลำต่อมำ ในช่วงนี้เป็นเวลำหลำยปี
                  เมื่อท่ำนอำจำรย์ได้ไปเรียนยังประเทศฟิลิปปินส์แล้ว  พอควรที่น�ำท่ำนอำจำรย์กลับมำยังดนตรีไทยที่ท่ำน
                  ท่ำนคิดถึงเพลงไทยเดิมมำก ท่ำนได้บันทึกไว้ว่ำ  มีใจรักเป็นทุนเดิม ท่ำนจึงได้พักควำมสนใจในดนตรี
                     “เมื่อไปเรียนหนังสือเมืองนอกได้ปีนหน้าต่าง  สำกลไปในช่วงนี้
                  ไปฟังเพลงไทยเดิมจากวิทยุของเพื่อน ข้าพเจ้าไม่กล้าซื้อ  จุดเริ่มต้นส�ำคัญที่ท�ำให้ท่ำนอำจำรย์กลับมำให้
                  วิทยุหรือโทรทัศน์ เพราะจะท�าให้เรียนหนังสือไม่รู้  ควำมสนใจกับดนตรีสำกลอีกครั้งจนก้ำวไกลไปถึงขั้นที่
                  เรื่อง เพราะถ้าได้ยินเสียงดนตรี ใจจะตามเสียงดนตรี  พระบำทสมเด็จพระบรมชนกำธิเบศร มหำภูมิพล
                  ไปจนไม่สามารถท่องต�าราได้”                  อดุลยเดชมหำรำช บรมนำถบพิตร (รัชกำลที่ ๙)
                     ปีพ.ศ. ๒๔๘๒ - พ.ศ. ๒๔๘๖ ภำยหลังจำกจบ     ไว้วำงพระรำชหฤทัยและทรงพระกรุณำโปรดเกล้ำ ฯ

                  กำรศึกษำกลับมำเมืองไทยแล้ว ท่ำนอำจำรย์ได้ไปสอน  ให้ท่ำนอำจำรย์ประพันธ์ค�ำร้องเพลงพระรำชนิพนธ์
                  ที่วิทยำลัยเกษตรศำสตร์แม่โจ้ เชียงใหม่ (ปัจจุบันคือ  ถึง ๕ เพลงนั้น ก็เนื่องมำจำกพระเจ้ำวรวงศ์เธอ
                  มหำวิทยำลัยแม่โจ้) ท่ำนอำจำรย์ต้องท�ำหน้ำที่  พระองค์เจ้ำจักรพันธ์เพ็ญศิริ (ขอออกพระนำมสั้น ๆ
                  ควบคุมวงสตริงแบนด์ที่นักเรียนแม่โจ้ตั้งขึ้นมำ   ว่ำท่ำนจักร) ผู้ซึ่งถวำยงำนใกล้ชิดกับพระบำทสมเด็จ




        30   เกษตราภิชาน ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร
   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37