Page 30 -
P. 30
โครงการรวบรวมและจัดทําวารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
26
อัตราการทดแทนในประชากรเมื่อพิจารณาจาก เทือกเขา พื้นที่ที่เหมาะสมอยู่เฉพาะบริเวณรอบที่ปล่อย
โครงสร้างอายุในประชากร ทั้งละมั่ง ในพื้นที่มีค่าร้อยละ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1 ตารางกิโลเมตร จึงเป็น
40.65 นับเป็นสิ่งปกติที่ปรากฏในประชากรสัตว์พวก สาเหตุส�าคัญในการจ�ากัดความสามารถในการรองรับ
กวาง ที่มีศักยภาพสูงในการเพิ่มจ�านวนตามธรรมชาติ ประชากรละมั่งภายในพื้นที่ ทั้งละมั่งและเนื้อทราย
โดยอาจมีอัตราการทดแทนในประชากรมากถึงร้อยละ จึงพบว่ามีการกระจายออกไปอาศัยรอบแนวเขตรักษา
40 (นริศ, 2543) ผลการศึกษาที่ได้เมื่อเปรียบเทียบกับ พันธุ์สัตว์ป่าเวียง ซึ่งเป็นพื้นที่ราบแต่ได้ถูกเปลี่ยนเป็น
อัตราการทดแทนประชากรกวางป่าในเขตรักษาพันธุ์ พื้นที่เกษตรกรรมไปจนหมด ดังนั้นการปรับปรุงถิ่น
สัตว์ป่าห้วยขาแข้งที่มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 28.17 (รองลาภ, อาศัยภายในโดยเฉพาะบริเวณที่ปล่อย เพื่อเพิ่มความ
2547) ขณะที่เก้งมีค่าเฉลี่ยร้อยละ 22.85 (Sukmasuang, เหมาะสมทั้งคุณภาพและขนาดพื้นที่ด้วยการเปิดช่อง
2001) ก็นับว่าสูงมาก ว่างในป่าเพื่อขยายพื้นที่โล่งจึงเป็นสิ่งจ�าเป็นส�าหรับ
อาจเป็นเพราะในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเวียงลอ ประชากรละมั่งในพื้นที่
ไม่มีสัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่ ทั้งหมาใน เสือโคร่ง และ เนื้อทราย พบว่ามีจ�านวนตัวที่สามารถจ�าแนก
เสือดาว จึงท�าให้ลูกสัตว์ออกมาติดตามแม่มากกว่าที่ จากภาพถ่ายได้แบบสะสม 529 ภาพ เป็นเพศผู้เต็มวัย
จะหลบซ่อนตัว โดยสาเหตุการตายของละมั่งและเนื้อ จ�านวน 106 ภาพ เพศเมียเต็มวัย 263 ภาพ คิดเป็น
ทรายในพื้นที่นี้อาจเกิดจากสุนัขบ้านที่เข้ามาในพื้นที่ อัตราส่วนเพศในประชากรเนื้อทรายเท่ากับ 1:2.48 เป็น
การลักลอบล่า แต่พบน้อยมาก นอกจากนี้การไม่เพิ่ม เนื้อทรายก่อนเต็มวัย 84 ภาพ เป็นเพศผู้ก่อนเต็มวัย 24
ขึ้นของประชากรละมั่งอาจเกิดจากความสามารถในการ ภาพ เพศเมียก่อนเต็มวัย 60 ภาพ เป็นเนื้อทรายวัยรุ่น
รองรับประชากรของพื้นที่มีน้อย ปกติละมั่งชอบอาศัยใน 47 ภาพ และเป็นลูกเนื้อทราย 28 ภาพ คิดเป็นสัดส่วน
พื้นที่ที่เป็นทุ่งโล่งในป่าเต็งรัง (Lekagul and McNeely, โครงสร้างชั้นอายุในประชากร เพศผู้เต็มวัย: เพศเมีย
1988, Myint et al., 2001, Zeng et al. 2001) แต่พื้นที่ เต็มวัย: วัยรุ่น: ลูกอ่อน เป็น 1: 2.48: 0.79: 0.44: 0.26
ปล่อยสู่ธรรมชาติ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเวียงลอ ที่มี พัฒนาวดี (2546) พบว่าเนื้อทรายที่ปล่อยสู่ธรรมชาติ
ความเหมาะสมเนื่องจากเป็นที่ราบตามหุบเขา หรือตาม ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว มีสัดส่วนเพศผู้ ต่อเพศ
หุบล�าห้วย รวมพื้นที่บริเวณที่ตั้งโครงการปล่อยสัตว์ป่า เมียเท่ากับ 50.5:100 หรือ 1:1.98 ก็นับว่าใกล้เคียงกัน
คืนสู่ธรรมชาติมีอาณาเขตน้อยกว่า 1 ตารางกิโลเมตร สัดส่วนเพศเมียเต็มวัยต่อลูกอ่อนในประชากร
มีสภาพเป็นป่าเบญจพรรณสลับป่าเต็งรังบนเนินเขา เนื้อทราย 1: 0.12 ซึ่งใกล้เคียงกับของเนื้อทรายที่ปล่อย
ส่วนพื้นที่ราบที่เป็นถิ่นอาศัยเดิมรอบแนวเขตรักษา ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวที่มีค่า 1: 0.16 (พัฒนา
พันธุ์สัตว์ป่าเวียงลอ ถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่เกษตรกรรม วดี, 2546) คิดเป็นอัตราการทดแทนใน ในประชากร
อย่างไรก็ตามจากรายงาน มีการพบทั้งละมั่งและเนื้อทราย (recruitment rate) มีค่าร้อยละ 16.56 ((100(47+28))/
กระจายออกทั่วไป โดยเฉพาะตามแนวเขตรักษาพันธุ์ (106+263+24+60)) (Table 2)
สัตว์ป่าเวียงลอ ฝั่งซ้ายซึ่งครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 30 เมื่อพิจารณาจากอัตราการทดแทนที่มีค่าร้อยละ
ตารางกิโลเมตร ซึ่งนอกจากท�าให้ยากในการติดตาม 16.53 นับว่าใกล้เคียงกับผลการศึกษาเนื้อทรายในธรรมชาติ
ศึกษาจ�านวนประชากรแล้ว ยังชี้ให้เห็นว่าพื้นที่ส�าหรับ ที่พบว่ามีค่าร้อยละ 13.10 (Dhungel, 1985) จนถึงร้อยละ
รองรับประชากรสัตว์ทั้ง 2 ชนิดภายในพื้นที่เขตรักษา 20.00 (Shaller, 1967) ในอุทยานแห่งชาติราชจิตวัน
พันธุ์สัตว์ป่ามีน้อย เนื่องจากพื้นที่ภายในส่วนใหญ่เป็น ประเทศเนปาล ผลการศึกษาของพัฒนาวดี (2546) พบว่า