Page 93 -
P. 93
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
9. กำรวิเครำะห์ควำมเป็นไปได้ของโครงกำร
ด้ำนกำรตลำด
ความต้องการบริโภคเนื้อโคของประเทศไทยในปี 2549-2556 มีปริมาณโดยเฉลี่ย 1.25 ล้านตัวต่อปี
หรือมีอัตราบริโภคเนื้อโคเฉลี่ย 2.85 กิโลกรัม/คน/ปี เนื้อโคที่บริโภคภายในประเทศเป็นเนื้อโคที่มาจากโคเลี้ยง
ในประเทศทั้งลูกผสมและโคพื้นเมืองประมาณ 1 ล้านตัว และปริมาณที่ขาดอยู่อีกประมาณ 2 แสนตัว
เป็นการน�าเข้าโคมีชีวิตจากประเทศเพื่อนบ้าน
ด้านราคาโคมีชีวิตตั้งแต่ปี 2547-2554 ราคาค่อนข้างคงที่อยู่ในระดับ 43-50 บาท/กิโลกรัม
โดยระดับราคาเริ่มปรับตัวสูงขึ้นช่วงปลายปี 2554 และในปี 2555 เพิ่มเป็น 58 บาท/กิโลกรัม ปี 2556
เพิ่มเป็น 70 บาท และปี 2557 เพิ่มขึ้นเป็น 90-92 บาท/กิโลกรัม (กลุ่มวิจัยเศรษฐกิจการปศุสัตว์ กองส่งเสริม
และพัฒนาการปศุสัตว์) จากสถานการณ์ด้านราคาที่สูงขึ้นมากในปัจจุบัน แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่มีมากขึ้น
ทั้งความต้องการบริโภคเนื้อโคในประเทศและความต้องการของตลาดส่งออก ในขณะที่ปริมาณผลผลิตโคเนื้อ
ในประเทศมีปริมาณลดลง จึงต้องน�าเข้าโคเนื้อจากประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์เพื่อส่งออกไป
ประเทศเพื่อนบ้านสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เวียดนาม กัมพูชา และมาเลเชีย รวมถึงการส่งผ่าน
ต่อไปยังประเทศจีนที่เป็นตลาดใหญ่มีความต้องการบริโภคเนื้อโคจ�านวนมาก
ด้านตลาดการค้าโคเนื้อระหว่างประเทศ ในปี 2556 ข้อมูลจากกรมศุลกากรประเทศไทยมีการน�าเข้า
โคมีชีวิตจากประเทศเมียนมาร์ 128,384 ตัว เพิ่มขึ้นร้อยละ 79 เมื่อเทียบกับการน�าเข้าในปี 2555 และมี
การน�าเข้าเนื้อโคขุนคุณภาพสูงเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคภายในประเทศจ�านวน 6,228 ตัน มูลค่า
1,192 ล้านบาท โดยเป็นการน�าเข้าจากประเทศในกลุ่มโอเชียเนีย ได้แก่ ออสเตรเลีย (62.6%) นิวซีแลนด์ (32.6%)
และประเทศนอกกลุ่มโอเชียเนีย ได้แก่ สหรัฐอเมริกา (3.8%) ญี่ปุ่น (0.5%) และอื่นๆ (0.5%)
ส�าหรับการส่งออกโคเนื้อ ในปี 2556 โคเนื้อทั้งหมดส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มประเทศอาเซียน
จ�านวน 218,025 ตัว เพิ่มขึ้นร้อยละ 73 เมื่อเทียบกับการส่งออกในปี 2555 ประเทศคู่ค้าที่ส�าคัญ ได้แก่
ประเทศลาว (80%) กัมพูชา (15%) และมาเลเซีย (5%)
ด้ำนเทคนิค
ในปัจจุบันการเลี้ยงโคเนื้อของประเทศไทยจะมีต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการเลี้ยงแบบปล่อยให้กินหญ้า
ตามที่สาธารณะจะค่อยๆ หมดไป เพราะพื้นที่มีจ�ากัด ขาดแคลนแหล่งน�้า ภัยธรรมชาติมีมากขึ้น และค่าแรงงาน
สูงขึ้น โครงการฟาร์มโคเนื้อสร้างอาชีพได้ปรับรูปแบบการเลี้ยงโคเนื้อแบบประณีต (Intensive Farm)
เลี้ยงโคในโรงเรือนที่มีขนาดเหมาะสมกับจ�านวนโค มีการจัดการพืชอาหารสัตว์ ท�าให้ใช้พื้นที่และแรงงานน้อยลง
ประสิทธิภาพของการผลิตเพิ่มสูงขึ้น มีการใช้ประโยชน์จากมูลโคเพื่อผลิตเป็นปุ๋ยอินทรีย์หรือพลังงานทดแทน
ซึ่งเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการจะต้องมีความรู้ในเรื่องการเลี้ยงโคเนื้อแบบประณีต
ส�าหรับการจัดการอาหารสัตว์ การเลี้ยงสัตว์เคี้ยวเอื้องจะต้องให้ความส�าคัญด้านอาหารหยาบ เกษตรกร
ต้องใช้ความรู้เรื่องการปลูกพืชอาหารสัตว์หรือการท�าแปลงหญ้า และการส�ารองพืชอาหารสัตว์ที่มีมาก
ในช่วงฤดูฝนในรูปของหญ้าแห้ง หรือหญ้าหมัก (Silage) เพื่อใช้ในฤดูแล้ง สร้างความมั่นคงทางอาหารตลอดทั้งปี
เพื่อให้โคเนื้อมีการเจริญเติบโตเต็มศักยภาพของพันธุกรรม สุขภาพแข็งแรง มีอัตราการสร้างเนื้อที่คุ้มค่า
คู่มือปฏิบัติงาน การผลิตโคเนื้อเชิงการค้า ส�าหรับเจ้าหน้าที่ 91
Commercial Beef Cattle Production Work Manual Official Edition