Page 104 -
P. 104
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ได้ยินนี่เอามาคิด ไม่ค่อยควบคุมความคิด ธรรมชาติก็เลยบอกเลย
เอ้า! คิดมากนักให้มันหูตึงเสียดีกว่า เลยให้เป็นคนหูตึงแล้วจะได้ไม่
ต้องคิดมาก ธรรมชาติช่วยให้เราสบาย แต่เราไม่ชอบใจหาว่าไม่สบาย
อย่างนี้เป็นตัวอย่าง
พระพุทธเจ้าว่า “มันเป็นเช่นนั้นเอง” มันเป็นเช่นนั้นเองคือ มัน
แก่ เราใช้มันนาน มันก็ต้องเปลี่ยนแปลงไป ตาเปลี่ยนแปลงไป หู
เปลี่ยนแปลงไป แข้งขาก็ไม่ค่อยแข็งแรงแล้ว เดินเหินก็ต้องถือไม้เท้า
ยันๆ ไว้หน่อย สองขาไม่พอเอาไปสามขา นี่ธรรมชาติมันเป็นอย่างนี้
เราก็ควรพอใจว่ามันก็ดีแล้วยังเดินได้ ถ้าเดินได้ก็ควรจะดีใจว่าเดินได้
แต่ถ้าเดินไม่ได้เสียเลย ก็นึกว่า อ้อ! เราเดินมานานแล้ว เดินมาตั้ง
๗๕ ปี หรือว่าเดินมาตั้ง ๘๐ ปีแล้วมันก็พอแล้วละ เดินพอแล้ว จะเดิน
ต่อไปถึงไหน เวลาไปป่าช้านี่ ไม่ใช่ต้องเดิน เขาหามเอาไปทั้งนั้น เรา
จะไปทุกข์ไปร้อนอะไร ถึงเวลาจะไป เขาก็หามเอาไปเรียบร้อยเลย
ไม่มีใครรอให้ศพเดินไปป่าช้าสักรายเดียว หามกันใหญ่โตเลย แล้ว
จะไปทุกข์อะไร คิดให้ดีแล้วมันก็เท่านั้นแหละ สบายอกสบายใจ
ถ้ามองให้ถูกต้อง เรียกว่ามองในแง่ธรรมะนั่นเอง ถ้ามองในแง่
ธรรมะแล้วก็สบายใจ แต่ถ้ามองโดยไม่มีธรรมะ เราก็กลุ้มใจ มีความ
ป า ฐ ก ถ า ธ ร ร ม : ปั ญ ญ า นั น ท ภิ ก ขุ 103