Page 203 -
P. 203
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
2-70
หนาที่ของสวนราชการหรือองคการของรัฐไมบรรลุวัตถุประสงค ดวยเหตุนี้มาตรา 13 ทวิ แหงพระราชบัญญัติปา
สงวนแหงชาติ พ.ศ. 2507 ที่ใชบังคับอยูในปจจุบันจึงไมไดกําหนดขอจํากัดไววาจะอนุญาตใหเขาใชพื้นที่ในเขต
ปาสงวนแหงชาติไดเฉพาะในเขตปาเสื่อมโทรมเทานั้น อยางไรก็ตาม ในกรณีที่รัฐบาลเห็นสมควรกําหนดมาตรการ
ที่รัดกุมขึ้นเพื่ออนุรักษสภาพความสมบูรณของปาไม ก็อาจมีมติคณะรัฐมนตรีใหการอนุญาตใหสวนราชการหรือ
องคการของรัฐเขาใชประโยชนในพื้นที่ปาสงวนแหงชาติตามมาตรา 13 ทวิ แหงพระราชบัญญัติปาสงวนแหงชาติ
พ.ศ. 2507 กระทําไดเฉพาะในพื้นที่ปาเสื่อมโทรมเทานั้น
2.4.9 นโยบายการอนุรักษพื้นที่ปาไมและเหตุการณที่สําคัญในชวงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ
สังคมแหงชาติ ฉบับที่ 9 (พ.ศ.2545–2548)
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2545-2549) ไดกําหนดแผนที่
เกี่ยวของกับการอนุรักษพื้นที่ปาไมไวในบทที่ 5 ยุทธศาสตรการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดลอม โดยกําหนดเปาหมายไวในขอ 2.1 และ 2.2 ดังนี้
“2.1 ปฏิรูประบบการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมใหมี
ประสิทธภาพในการกํากับดูแล มีความโปรงใส ตรวจสอบได รวมทั้งใหประชาชนมสวนรวมในการ
บริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การปองกัน รวมทั้งการเฝาระวังรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอมและการ
กอมลพิษ
2.2 อนุรักษและฟนฟูทรัพยากรธรรมชาติควบคูกับการใชประโยชน โดยใหมีพื้นที่
ปาอนุรักษไมต่ํากวารอยละ 25 ของพื้นที่ประเทศ ควบคูไปกับการอนุรักษพื้นที่ปาชายเลนใหไดไมต่ํากวา
รอยละ 1.25 ลานไร ตลอดจนลดปญหาการชะลางพังทลายของดินไมนอยกวา 5 ลานไร และฟนฟูปรับปรุง
บํารุงดินที่มีปญหาทั้งที่เปนดินเปรี้ยว ดินเค็ม และดินขาดอินทรียวัตถุไมนอยกวา 10 ลานไร ในป 2549”
ในสวนแนวทางการพัฒนาไดกําหนดไวในขอ 3.2 ดังนี้
3.2 อนุรักษและฟนฟูทรัพยากรธรรมชาติของประเทศใหมีความอุดมสมบูรณ
เพื่อความสมดุลของระบบนิเวศและใชประโยชนในการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศอยางยั่งยืน ดังนี้
(1) คุมครองและกําหนดเขตพื้นที่อนุรักษเพื่อรักษาสมดุลของระบบนิเวศและ
มีการใชประโยชนที่สอดคลองกับสมรรถนะ โดย
(1.1) ตรวจสอบความเหมาะสมของพื้นที่ที่ไดกําหนดเปนพื้นที่ลุมนํ้าชั้น
ที่ 1 ใหแลวเสร็จ และประกาศใหพื้นที่ลุมนํ้าชั้นที่ 1 ทั้งหมด เปนเขตอนุรักษหรือพื้นที่คุมครอง จัดทําแนว
เขตพื้นที่ปาอนุรักษและปาชายเลนอนุรักษใหเสร็จสมบูรณ รวมทั้งแนวกันชนรอบนอกพื้นที่ปาอนุรักษที่
สําคัญ ตลอดจนสรางกลไกและเครือขายในการบริหารจัดการพื้นที่ปาอนุรักษเพื่อลดขอขัดแยงระหวาง
ภาครฐั และประชาชน โดยยึดหลักประสิทธิภาพและหลักการมีสวนรวม
(1.2) ใหชุมชนและทองถิ่นมีสวนรวมกับภาครัฐในการฟนฟูและปลูกปา
ตลอดจนมีสวนรวมในการบริหารจัดการปาชุมชนอยางมีประสิทธิภาพ
(1.3) ประกาศเขตสงวนรักษาพืชพันธุ เขตอนุรักษพันธุสัตวนํ้า และ
กําหนดเขตและมาตรการคุมครองการทําประมงพื้นบานใหชัดเจน
(1.4) กําหนดเขตการใชประโยชนที่ดินในพื้นที่ที่สมควรอนุรักษเปนพื้นที่
เกษตรกรรม ควบคูไปกับการสรางแรงจูงใจผานมาตรการดานสินเชื่อ ภาษี และระบบตลาด เพื่อกระจาย
สิทธิการถือครองที่ดินในพื้นที่ที่เหมาะสมตอการเกษตรแตมิไดใชประโยชนท างการเกษตร พรอมทั้งใหมี