Page 138 -
P. 138

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                                                                                                       2-5



                                                         กรอบที่ 1 (ตอ)


                               อนึ่ง ขาพระพุทธเจาเห็นดวยเกลาฯ วา ตอไปควรจะเก็บภาษีไมที่ไชยนาทใหสูงขึ้นกวาที่เก็บอยูทุกวันนี้ แตถาจะเก็บในเวลา
                      ที่เขารับเชาทําอยูตามสัญญาเดี๋ยวนี้ พวกพอคาปาไมทั้งปวงคงจะรองขัดขวางไมยอมใหเก็บไดและทั้งไมเปนยุติธรรมดวย เพราะเขาตอง
                      เสียเงินในเวลาที่ขอรับทําสัญญามานั้นมาก โดยเชื่อวาภาษีไมจะเก็บอยูคงที่เสมอไป แตถาเรางดการใหรับเชาทําปาไมเสียคราวหนึ่งแลว
                      เมื่อถึงเวลาที่จะยอมอนุญาตใหใหม จะเรียกภาษีไมขึ้นอีกสักสองสามเทาก็ไดไมลําบากเลย เหตุอันนี้เปนขอที่จะโตเถียงในขอที่วาการจะ
                      งดอนุญาตใหรับเชาทําปาไมนั้นเปนการดี คือถางดแลวตอไปอีก 7 หรือ 8 ป รัฐบาลจะเก็บเงินจากไมสักไดมากขึ้นไปกวาทุกวันนี้ถึง 2
                      เทา 3 เทา  อนึ่ง ขาพระพุทธเจาไดทราบวาการที่รัฐบาลสยามจะไมยอมอนุญาตใหรับเชาทําปานั้นไมใชวาจะไมยอมไดเสมอไป เพราะผู
                      ที่รับเชาทําคงจะรองวา เจาของปาไมเขายอมใหทําแลวทั้งไดเสียเงินคาตรา และคาตางตางใหแกเจาของปาและเจาพนักงานมามากแลว

                      ถาไมมีเหตุผลที่มั่นคงจริงๆ ตกลงคงเปนวารัฐบาลสยามคงตองยอมอนุญาตใหที่เปนอยูทุกวันนี้ ขาพระพุทธเจาไดทราบเกลาฯ วา เมื่อ
                      เขาขอทําปาไมแลวจะไมยอมอนุญาตใหไมใครจะได แตขาพระพุทธเจาตองขอวาถาปารายใดที่พอจะงดไดขอใหงดไว อยายอมอนุญาต
                      ใหรับเชาทําตอไป แตการทั้งนี้ตองแลวแตวาปาไมในพระราชอาณาเขตรสยามจะเจริญไปภายหนาเพียงใด
                             ขาพระพุทธเจาเห็นดวยเกลาฯ วา ควรรีบออกประกาศเสียวาตั้งแตนี้ตอไปอีก 6 ป รัฐบาลสยามจะไมลงดวงตราอนุญาตใหผู

                      หนึ่งผูใดรับเชาทําปาไมตําบลใดใดเลย เมื่อสิ้นกําหนดแลวปาใดที่รัฐบาลไดประกาศไวลวงนาจะใหรับเชาทํา จึงจะรับเชาทําได ที่จะออก
                      ประกาศเชนนี้เพื่อจะปองกันไมตองใหรัฐบาลสยามจําเปนตองลงดวงตราอนุญาตใหแกผูขอรับเชา รับทําโดยเหตุผลที่อางวาไดเสียเงินมามากแลว
                      นั้น และเมื่อประกาศแลวถาพอคาไมคนใดไปยอมเสียเงินก็เปนความผิดของตนเอง จะใหรัฐบาลสยามรับผิดชอบอยางใดไมได  เห็นดวยเกลาฯ ดังนี้

                                                                ควรมิควรแลวแตจะโปรดเกลาฯ
                                                              ขาพระพุทธเจา (เซ็นชื่อ)  เอช. สะเลด
                                                                  พระสฤษดิ์พจนกร   แปล ”




                         ในชวงระหวางสงครามโลกครั้งที่  2  ใน  พ.ศ.  2484  รัฐบาลไทยไดเพิกถอนสัมปทานการทําไมสัก
                  จากบริษัทอังกฤษทั้ง 4 บริษัท ดวยเหตุผลทางการเมืองและเพื่อพยุงฐานะทางการเงินของรัฐบาล รัฐบาลได
                  จัดตั้งบริษัทไมไทย จํากัด ขึ้นรับชวงการทําไมแทน หลังสงครามโลกใน พ.ศ. 2489 รัฐบาลจําเปนตองคืน
                  สัมปทานปาสักใหแกบริษัททําไมตางๆ  ที่ยึดคืนมา  และไดจัดตั้งองคการอุตสาหกรรมปาไม  (อ.อ.ป.)  ขึ้น

                  แทนบริษัทไมไทยจํากัดใน  พ.ศ.  2490  เพื่อดําเนินกิจการดานปาไมใหแกรัฐบาลจนกระทั่ง  พ.ศ.  2447-
                  2498 สัมปทานปาสักของบริษัทตางๆ ไดสิ้นสุดลงและไมไดรับตอสัญญา รัฐบาลไดจัดตั้งบริษัทปาไมรวมทุน
                  ขึ้น  โดยรวมทุนจากบริษัททําไมที่หมดสัมปทานทั้ง  5  บริษัทเขาดวยกัน  โดยรัฐบาลไทยถือหุนรอยละ  20
                  นอกจากนี้ยังไดจัดตั้งบริษัทปาไมจังหวัดขึ้น  เพื่อรับทําไมในทองที่จังหวัดนั้นๆ  ปาสักไดถูกแบงออกเปน  3

                  สวนคือใหองคการอุตสาหกรรมปาไมทําหนึ่งสวน  บริษัทปาไมรวมทุนหนึ่งสวน  และบริษัทปาไมจังหวัดอีก
                  หนึ่งสวน จนกระทั่ง พ.ศ. 2503 เมื่อหมดสัมปทานรัฐบาลจึงไดมอบใหองคการอุตสาหกรรมปาไม เปนผูดําเนิน
                  กิจการทําไมสักทั้งหมด  ยกเวนสัมปทานปาสักของเอกชนที่อายุสัญญายังเหลืออยูบริษัททําไมตางชาติทั้ง  5
                  บริษัทก็ไดปดกิจการลง
   133   134   135   136   137   138   139   140   141   142   143