Page 136 -
P. 136
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
2-3
กรอบที่ 1
“วันที่ 25 มิถุนายน รัตนโกสินทรศก 115/2438
ขาพระพุทธเจา มิสเตอรสะเลด เจาพนักงานปาไม กราบทูลพระเจานองยาเธอกรมหมื่นดํารงราชานุภาพ เสนาบดี
กระทรวงมหาดไทย ทรงทราบฝาพระบาท*
1. ดวยในเร็วเร็วนี้ขาพระพุทธเจาจะไดถวายรายงานในการที่โปรดเกลาฯ ใหขาพระพุทธเจาไปตรวจปาไมฝายเหนือ พรอมดวย
ความเห็นของขาพระพุทธเจาที่จะจัดการปาไมตอไป ในรายงานฉบับนั้นขาพระพุทธเจาจะกราบทูลการที่เกี่ยวดวยปาไมหลายสิ่งหลายอยาง
ตางๆ กันบางทีขอความสําคัญที่ควรจะตองรีบจัดทํากอนการอื่นจะไมทันไดสังเกตหรือรอไวจัดพรอมกับเรื่องที่ไมสูจะสําคัญ เพราะเหตุนี้
ขาพระพุทธเจาขอพระทานแยกกราบทูลดวยเรื่องอนุญาตใหรับเชาทําปาไมเสียเรื่องหนึ่งกอน เพราะขาพระพุทธเจาเห็นดวยเกลาฯ วาการ
อนุญาตใหรับเชาทําปาไมเปนหัวใจของการที่จะจัดปาไมในกรุงสยามตอไป
2. เพื่อจะกราบทูลชี้แจงใหทรงทราบฝาพระบาทไดละเอียด จําเปนที่ขาพระพุทธเจาจะตองกราบทูลถึงแบบแผนวิธีจัดการรักษา
ปาไมในเมืองอื่นๆ ซึ่งเขาเลาเรียนกันเปนวิชาอยางหนึ่ง คือ
ในปาไมสักที่ยังไมมีผูใดตัดฟนเลยนั้น มีไมสักใหญนอยตางๆ แลอายุของตนสักเหลานั้นตางตางกัน ถาพื้นที่ดินและลําน้ําที่จะตัด
ฟนลองลงมาไดโดยสะดวกแลว ถาเปนไมที่ไมชํารุด ไมสักเหลานั้นก็มีราคาตามตนใดใหญตนใดเล็ก ไมสักเหลานี้ตามที่เขาไดทดลองมาแลวนั้น
ถาตัดไมสักที่มีลําตนพนจากดินขึ้นมาขนาดเล็กกวา 4 กํา (เทากับ 6 ฟต 6 นิ้ว) แลวนับวาเปนอันเสียของดีเสียเปลา
3. เจาพนักงานปาไมมีหนาที่และจําเปนที่จะตองระวังรักษาโดยเฉภาะ 2 ประการ คือ (1) เจาพนักงานปาไมจะตองถือวาปาไมทั้ง
ปวงที่เขามอบใหรักษานั้น ไมใชแตเพียงวาจะเปนทรัพยสมบัติของคนชั้นนี้ ตองนับวาเปนทรัพยสมบัติของบุตรหลานชั้นหลังๆ ตอไปดวยและ
ควรจะตัดฟนไมในชั่วปหนึ่งเฉภาะเพียงเทาที่ไมจะงอกงามขึ้นทดแทนกันไดในปหนึ่งนั้น (2) เจาพนักงานปาไมจะตองจัดการใหตัดฟนไมโดยวิธี
จะใหคอยไดผลประโยชนเจริญขึ้นทุกที
นั้นควรตองถือวาเปนทุนทรัพยของหลวงที่ไดลงทุนไวแลวในกาลกอนชานาน เพื่อใหเปนผลประโยชนแกคนที่จะเกิดในชั้นหลัง
เพราะฉะนั้นเปนหนาที่ของเจาพนักงานปาไมจะตองระวังรักษาทุนทรัพยของเดิมนี้ไวใหดี จัดใหไดผลประโยชนเปนกําไรใหไดมากตามแตจะ
จัดได เก็บกินแตกําไรไปเทานั้น ไมมีอํานาจที่จะจับตองทุนทรัพยของเดิมนั้นไดเลย เจาพนักงานปาไมควรตองจัดใหไดกําไรใหมากขึ้นคือจัดให
ตัดฟนไมใหไดมาก ตองคิดกะดูวาอยางมากจะไดเทาใด แลวตองจัดใหตัดฟนเฉภาะเพียงเทานั้นไมใหกวาขึ้นไป การควรเปนดังนี้เพราะฉะนั้น
ชั้นแรกจะตองตรวจจัดวาไมในปาจะขึ้นไดปละเทาใด แลวจัดการอยาใหตัดฟนมากกวาจํานวนนั้นขึ้นไปได ที่จะจัดเชนนี้ เจาพนักงานปาไมกะ
วางการอยางหนึ่งซึ่งเรียกวา “แผนทําการ”(หรือเรียกตามภาษาปาไมฝายอังกฤษวา “เวิกกิงแปลน”) สําหรับปาไมนั้น
วิธีจะตรวจอายุไมสัก เจาพนักงานปาไมนับวงปุมที่งอกตามตนอยางหนึ่ง ดวยเจาะรูสอบในลําตนอยางหนึ่งและวิธีอยางอื่นๆ อีก ทราบไดวาป
หนึ่งไมอายุเพียงใดงอกงามขึ้นไดเทาใดเมื่อทราบไดดังนี้แลว ก็อาจจะรูไดดังนี้แลว ก็อาจจะรูไดวากี่ปตนสักจึงจะใหญพอใหตัดได แลวเขาจึงนับ
ตนไมแลแบงจัดตนไมออกเปน 5 ชนิด คือ
ชนิดที่ 1 ไมขนาดใหญกวา 4 กําขึ้นไป
ชนิดที่ 2 ไมขนาดแต 3 กําขึ้นไปถึง 4 กํา
ชนิดที่ 3 ไมขนาดแต 2 กําขึ้นไปถึง 3 กํา
ชนิดที่ 4 ไมขนาดแต 1 กําขึ้นไปถึง 2 กํา
ชนิดที่ 5 เมล็ดที่พึ่งงอกขึ้น
อายุของตนไมสักนั้น เขาไดไตสวนทดลองรูแนแลววาตั้งแตเวลาที่งอกขึ้นแลว 150 ป จึงจะใหญเปนไมตนขนาด 4 กํา แลการที่แบง
ตนไมออกเปน 5 ชนิดเชนนี้ ถาคิดถัวเสียวาจะงอกขึ้นตามตามกันแลวกวาไมชนิดที่ 1 จะงอกโตขึ้นเปนชนิดที่ 2 ชนิดที่ 2 เปนชนิดที่ 3 ที่ 3
เปน ชนิดที่ 4 ที่ 4 เปนชนิดที่ 5 ถัดขึ้นไปนั้นกินเวลาถึง 30 ป เมื่อจัดตามวิธีนี้แลว ก็ตกลงคงเปนวา ถาจะทําไมปาใดถาตัดแตไมชนิดที่ 1
แลว ก็ยังคงเหลือไมในปาอีก 4 ชนิด ก็ถาเราหยุดการตัดฟนเสีย 30 ปแลว ไมชนิดที่ 2 ก็จะงอกเจริญขึ้นเปนไมชนิดที่ 1 (เวนเสียแตไมที่มีโรค
ตายไปเสียเองนั้น)
ถาตอไปอีก 30 ป ไมชนิดที่ 3 ก็คงจะงอกเจริญขึ้นเปนไมชนิดที่ 1 ถึงจะตัดฟนก็ไดดังนี้ เพราะฉนั้นถาเรายอมใหตัดฟนแตเพียงไมชนิดที่
1 แลว พอถึงกําหนดทุกทุก 30 ป ปาคงจะไมเสียเลย คงจะยังมีไมดีเปนประโยชนเสมออยู แตถาหากวายอมใหตัดฟนไมไดทุกทุกชนิด
นอกจากพวกที่ 1 แลวก็แลเห็นไดชัดวาปาจะเสียไปทุกทีๆ
การที่วามาแลวนี้เปนตกลงวาจะใหตัดฟนไมจําพวกที่ 1 ไดทุกทุก 30 ป แตจะตองนึกถึงดวยวานาที่ของเจาพนักงานปาไมจะตองจัดให
ไดผลประโยชนทุกทุกปดวย ก็การที่จะจัดใหไดผลประโยชนทุกๆ ปเชนนี้ เจาพนักงานปาไมจะตองแบงปาไมออกเปน 30 สวน จัดเปนสวนที่
1 ที่ 2 ที่ 3 ตอไปถึงสวนที่ 30 แลวแบงตัดฟนปละสวนทุกปไป แลจัดสวนปาใหไดไมเสมอกันตามแตจะแบงไดดวยสวนหนึ่ง 30 ป ใหไดตัด
ครั้งหนึ่ง
-------------------------------------
* ใชขอความตามตนฉบับเดิม