Page 176 -
P. 176
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
158 กระบวนการควบแน่นและหยาดน ้าฟ้า
6.4 การตรวจวัดปริมาณน ้าฝน
6.4.1 เกณฑ์การตรวจวัดปริมาณน ้าฝน
1. ถังวัดน ้าฝนควรอยู่ห่างจากสิ่งกีดขวางอย่างน้อยต้องเป็นมุมไม่เกิน 45 องศา
2. ขนาดของถังวัดน ้าฝนมาตรฐานมีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 200 มิลลิเมตร
(8 นิ้ว) ปากกรวยของถังวัดน ้าฝนท ามุมกับด้าน 120 องศา
3. ความสูงของปากถังวัดน ้าฝนจากพื้นดินประมาณ 1.0 เมตร
4. กระบอกในของเครื่องวัดน ้าฝนแบบธรรมดาควรมีพื้นที่เพียง 1/10 ของขนาด
พื้นที่ของปากกระบอกนอก จะท าให้อ่านค่าของน ้าฝนได้ถูกต้องแม่นย า โดยการวัดค่าความสูงของ
น ้าในกระบอกในแล้วหารด้วย 10
5. เครื่องมือวัดน ้าฝนแบบบันทึกอัตโนมัติควรเป็นแบบชั่งน ้าหนักมากกว่าแบบ
อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบไซฟอน หรือแบบถ้วยกระดก (Tipping Bucket) เนื่องจากให้ความถูกต้องสูง
กว่าแบบไซฟอนซึ่งต้องเสียเวลาในการไซฟอนน ้าทิ้ง และให้ความถูกต้องสูงกว่าแบบถ้อยกระดก
ซึ่งมีความผิดพลาดจากน ้าที่ยังคงตกค้างอยู่ในถ้วยกระดกในกรณีที่มีฝนตกหนัก (ภาพที่ 6.10)
6.4.2 การเฉลี่ยค่าของปริมาณน ้าฝนที่ตรวจวัดได้จากสถานีตรวจอากาศ
1. การเฉลี่ยปริมาณน ้าฝนเชิงเลขคณิต เป็นการหารเฉลี่ยแบบถ่วงน ้าหนักปริมาณ
น ้าฝนที่วัดได้จากสถานีตรวจอากาศ A, B, C และ D (ภาพที่ 6.12)
สถานีตรวจวัดปริมาณน ้าฝน A B C D
ปริมาณน ้าฝนรายวัน 40 80 100 60
40 80 100 60
ปริมาณน ้าฝนเฉลี่ยเชิงเลขคณิต =
4
= 70 มิลลิเมตร
ภาพที่ 6.12 การเฉลี่ยปริมาณน ้าฝนเชิงเลขคณิต
ที่มา : ดัดแปลงจาก Brooks et al. (1991)
2. การเฉลี่ยค่าแบบพื้นที่รูปเหลี่ยมไทเซน (Thiessen Polygon) เป็นการเฉลี่ยเชิง
พื้นที่โดยใช้รูปเหลี่ยมที่ได้จากเส้นตั้งฉาก ณ จุดกึ่งกลางของระยะระหว่างสถานีวัดแบบถ้วย
น ้าหนักน ้าฝนตัดกัน (ภาพที่ 5.24)