Page 168 -
P. 168

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                                                                                                        7-3




                                  พ.ศ. 2419  ได้มีการขุดคลองนครเนื่องเขตร์เชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพมหานครกับ

                   ฉะเชิงเทรา แล้วเสร็จในปี 2420 (กรมชลประทาน, 2529: 304)
                                  พ.ศ. 2420 ได้มีการออกกฎระเบียบในการขุดคลองเรียกว่า “ประกาศขุดคลอง” ประกาศฉบับนี้

                   จะพิจารณาถึงผู้ขอจองที่ดินว่ามีความสามารถจะท้าประโยชน์กับพื้นที่ที่จับจองได้หรือไม่ จากนั้นจึงจะออกโฉนดจอง
                   ให้ ซึ่งใจความส้าคัญของประกาศดังกล่าวอยู่ที่การให้ราษฎรผู้ประสงค์ที่จะท้านาใช้ประโยชน์พื้นที่ริมคลองให้ได้มาก

                   ที่สุด และยังต้องช่วยลดแรงหรือออกเงินช่วยในการขุดคลองด้วย ซึ่งรัฐบาลได้ใช้นโยบายเช่นนี้กับโครงการขุดคลอง

                   ต่างๆ ที่อยู่ทางบริเวณฝั่งตะวันออกของแม่น้้าเจ้าพระยา (กรมชลประทาน, 2529: 304)

                                  คลองที่ขุดโดยภาคเอกชน ได้แก่ คลองหลวงแพ่ง คลองอุดมชนจร คลองบางพลีใหญ่
                   คลองพระพิมล และคลองพระยาบันลือ
                                  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (2525: 4-5) ได้สรุปการขุดคลองต่างๆ ในช่วงปี 2421-2433  ไว้ ดังนี้

                                         “พ.ศ. 2421  ได้มีการขุดคลองทวีวัฒนา ในปีเดียวกันได้เริ่มขุดคลองนราภิรมย์

                   แล้วเสร็จปี พ.ศ. 2433
                                         พ.ศ. 2422  ได้เริ่มขุดคลองประเวศบุรีรมย์แล้วเสร็จในปี  2423

                                         พ.ศ. 2424  ได้มีการขุดคลองนิยมยาตรา

                                         พ.ศ. 2431  ได้มีการขุดคลองหลวงแพ่ง คลองอุดมชนจรและคลองบางพลีใหญ่
                   โดยภาคเอกชน

                                         พ.ศ 2433  ได้มีการขุดคลองพระพิมลโดยภาคเอกชน”
                                         พ.ศ. 2435  ได้เริ่มขุดคลองพระยาบันลือ (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, 2525: 37)

                                  วันที่ 1 เมษายน 2435 ได้มีการปรับปรุงกรมนาขึ้นเป็น “กระทรวงเกษตรพนิชการ” โดย

                   มีข้อความปรากฎในประกาศกระแสพระบรมราชโองการความว่า “… กระทรวงเกษตรธิการที่ได้บังคับการ

                   โรงภาษีสินค้าเข้าออกนั้น ให้ยกไปขึ้นกระทรวงการคลัง ให้คงแต่เกษตรพานิชและเกษตรกร ...”
                   (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, 2525: 6) ซึ่งมีหน้าที่หลักดังนี้

                                         “(1) มีน่าที่ ที่จะต้องคิดจัดการให้ที่ดินซึ่งเปนป่าดงพงแขมรกร้างว่างเปล่าอยู่ไม่
                   เปนประโยชน์ ให้มีผู้เลิกรั้งกลับเปนที่มีประโยชน์ขึ้น

                                         (2) มีน่าที่ ที่จะต้องวิดน้้าเข้านา (เมื่อเวลาน้้าน้อย) ขุดบึง, บาง, คลอง แลไขนา

                   (เมื่อน้้ามากเกินความต้องการของการท้านา)”
                                  จากหลักฐานแผนที่  ร.ศ.  120  และ 124  พบว่าในเขตจังหวัดปทุมธานีในขณะนั้นมีชุมชนตั้งอยู่

                   บริเวณฝั่งตะวันออกของแม่น้้าเจ้าพระยาหรือบริเวณอ้าเภอสามโคกในปัจจุบัน  ส่วนทางด้านตะวันตกของแม่น้้า

                   เจ้าพระยายังคงเป็นที่รกร้างว่างเปล่าไม่ได้ใช้ประโยชน์ ต่อมาใน พ.ศ 2431 ได้มีการให้สัมปทาน  แก่   “บริษัทขุดคลอง
                   และคูนาสยาม” ท้าการขุดคลอง “รังสิตประยูรศักดิ์” รวมทั้งคลองแยกและคลองซอย รวม 43  คลอง ความยาวรวม

                   ทั้งสิ้น 33,400 เส้น (ปิยนาถ บุนนาค, 2537: 42) คลองใหญ่ (คลองรังสิต) กว้าง 8 วา ยาว 1,370 เส้น คลองแยกกว้าง
                   3-5  วา คลองรังสิตประยูรศักดิ์ที่ท้าการขุดนี้อยู่ในบริเวณท้องทุ่งหลวงหรือทุ่งรังสิต ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของ
   163   164   165   166   167   168   169   170   171   172   173