Page 146 -
P. 146

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                                                                                                       5-12


                   เกษตรกรรมของประเทศไทย  และสาระส าคัญที่ควรก าหนดไว้ใน (ร่าง) พระราชบัญญัติการคุ้มครองพื้นที่

                   เกษตรกรรม พ.ศ. .... สรุปได้ ดังนี้
                                         1.  รัฐต้องก าชับและสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามกฎหมายที่

                   เกี่ยวข้องกับการใช้ที่ดินที่มีอยู่อย่างเข้มงวดและเคร่งครัด  เพื่อสงวนและรักษาที่ดินไว้เป็นสมบัติของไทย

                   อย่างยั่งยืน
                                         2. รัฐต้องเร่งด าเนินการให้มีการตรากฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองพื้นที่

                   เกษตรกรรม  เพื่อเป็นการสงวนพื้นที่ของประเทศไทย ที่มีคุณลักษณะของสภาพพื้นที่เหมาะสม  หรือมีการ
                   จัดสร้างโครงสร้างพื้นฐานและการจัดการชลประทานที่เหมาะสมไว้ส าหรับการท าการเกษตรและเพื่อการ

                   เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร

                                         3. ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย เห็นควรก าหนดเหตุผลในการออกกฎหมาย ดังนี้
                   "เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมที่ดินจึงเป็นปัจจัยส าคัญและเป็นรากฐานของการผลิตทางการเกษตร ซึ่ง

                   จ าเป็นต้องบ ารุงรักษาและฟื้นฟูดิน รวมทั้งพัฒนาให้เหมาะสมแก่การประกอบการเกษตรได้อย่างยั่งยืนและน าไปสู่การ
                   เป็นแหล่งผลิตอาหารที่ส าคัญของโลก  และจากผลของการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน  ท าให้มีการน าที่ดินที่

                   เหมาะสมกับการเกษตรไปใช้เพื่อกิจกรรมอื่นๆ  หรือเป็นเจ้าของที่ดินแทนคนต่างด้าวด้วยประการใดๆ  ซึ่งอาจเกิด

                   ผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศและความเป็นอยู่ของเกษตรกร  ประกอบกับยังไม่มีกฎหมายคุ้มครอง
                   พื้นที่เกษตรกรรมในลักษณะที่เป็นองค์รวม ดังนั้นเพื่อป้องกันมิให้เกษตรกรสูญเสียที่ดิน และเพื่อควบคุมการใช้ที่ดินให้

                   เกิดประโยชน์สูงสุดทางด้านเกษตรกรรม อันจะมีผลกระทบต่อศักยภาพการผลิตด้านการเกษตรและต่อความมั่นคงทาง

                   อาหารของประเทศ ตลอดจนเพื่อควบคุมการใช้ที่ดิน ให้เกิดประโยชน์ด้านเกษตรกรรมอย่างเต็มที่ จึงจ าเป็นต้องตรา
                   พระราชบัญญัตินี้ขึ้น"

                                         4. ในค าจ ากัดความค าว่า "พื้นที่เกษตรกรรม" ใน (ร่าง) พระราชบัญญัติฯ  ควรมี
                   การพิจารณาให้ความหมายครอบคลุมกิจกรรมการเกษตรทุกประเภท  และควรหมายรวมถึงภารกิจที่เป็น

                   การเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรกรรมที่เหมาะสมกับประเภทกิจกรรมการเกษตรในพื้นที่นั้นด้วย และสามารถสื่อ

                   ความหมายให้ชัดเจนว่าเป็นกิจการประเภทใด ขนาดของกิจการ ความสามารถในการสร้างสิ่งปลูกสร้าง
                                         5.  ควรเพิ่มสัดส่วนกรรมการที่เป็นผู้แทนมาจากองค์กรเกษตรกรโดยต าแหน่งใน

                   องค์ประกอบคณะกรรมการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม และลดสัดส่วนกรรมการที่เป็นผู้แทนมาจากภาครัฐที่
                   มีสังกัดหน่วยงานเดียวกันให้เหลือเพียงผู้แทนหน่วยงานระดับสูงเพื่อสั่งการให้หน่วยงานตามสายบังคับ

                   บัญชาสามารถน าเสนอข้อมูลมาปฏิบัติได้

                                         6. ในการประกาศเป็นเขตคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรมในแต่ละพื้นที่ควรเริ่มต้นมา
                   จากพื้นที่ท าการเกษตรที่ได้ก าหนดไว้ตามพระราชบัญญัติการผังเมืองเป็นส าคัญ

                                         7. ควรน ามาตรการทางภาษีอัตราก้าวหน้ามาใช้บังคับ กับกรณีที่ปล่อยให้ที่ดินซึ่ง

                   มีความเหมาะสมกับการท าการเกษตรกรรมในเขตชลประทานให้ทิ้งร้างว่างเปล่า
   141   142   143   144   145   146   147   148   149   150   151