Page 173 -
P. 173
โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
13-52
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2547 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอมาตรการใน
การตรวจสอบเพื่อรักษาคุณภาพข้าวหอมมะลิไทย โดยใช้วิธีการตรวจสอบสายพันธุ์ข้าว (DNA) ซึ่งเป็นการ
สุ่มเก็บตัวอย่างแล้วส่งตรวจสอบสายพันธุ์ข้าว (DNA) หากพบว่า คุณภาพข้าวไม่ถูกต้อง จะระงับการส่งออก
และให้น าไปปรับปรุงคุณภาพให้ได้มาตรฐานก่อน จึงจะอนุญาตให้ส่งออกได้ และได้ก าหนดมาตรฐานข้าว
หอมปทุมธานี 1 ซึ่งเป็นมาตรฐานแนะน า เพื่อยกระดับข้าวปทุมธานี 1 ให้สูงกว่าข้าวขาว แต่ต่ ากว่าข้าว
หอมมะลิไทย และจะใช้เป็นยุทธศาสตร์ในการขยายตลาดข้าวส่งออกของไทย โดยมี 3 ระดับคุณภาพ คือ
ข้าวหอมมะลิไทย ข้าวหอมปทุมธานี 1 และข้าวขาว เพื่อให้สอดคล้องกับก าลังซื้อและความต้องการของ
แต่ละตลาดรวมทั้งได้ประสานกับกระทรวงมหาดไทยจัดประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด
ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิไทย 19 จังหวัด ก าหนดแนวยุทธศาสตร์การ
รักษาคุณภาพมาตรฐานข้าวหอมมะลิไทยตั้งแต่ระดับโรงสี โดยขอความร่วมมือจังหวัดในการก ากับดูแล
คุณภาพข้าวหอมมะลิอีกทางหนึ่งด้วย
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2547 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานความ
คืบหน้าการระบายแป้งมันส าปะหลังตามโครงการแทรกแซงตลาดมันส าปะหลัง ปี 2547/48 โดยกระทรวง
พาณิชย์ได้อนุมัติขายแป้งมันส าปะหลังจ านวนประมาณ 1,136,363.636 ตัน ที่จะได้จากการแปรสภาพ
หัวมันสดที่รับจ าน า จ านวน 5 ล้านตัน ตามโครงการแทรกแซงตลาดมันส าปะหลัง ปี 2547/48 ในราคา
ณ หน้าโกดัง (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ให้แก่บริษัท P.S.C.STARCHPRODUCTS CO.,LTD ราคากิโลกรัมละ
7.15 บาท ซึ่งการขายแป้งมันฯ ให้แก่บริษัทฯ จะท าให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นเงิน 1,380.68 ล้านบาท เมื่อ
เทียบกับการขายตามโครงการฯ ปี 2546/47 ซึ่งขายในราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 5.94 บาท และสามารถ
ประหยัดภาระค่าจ่ายของรัฐ เมื่อเทียบกับการขายแป้งมันฯ ตามโครงการฯ ปี 2546/47 ซึ่งมีค่าใช้จ่ายใน
การฝากเก็บรักษาแป้งมันฯ และดอกเบี้ย ในช่วงระยะเวลาการขายประมาณ 6 เดือน นับจากการสิ้นสุดการ
รับจ าน าในเดือนเมษายน 2547 เฉลี่ยประมาณเดือนละ17.08 ล้านบาท คิดเป็นเงินรวมถึง 102.45 ล้าน
บาท ในขณะที่แป้งมันฯ ตามโครงการฯ ปี 2547/48 ได้ขายแป้งมันฯ ล่วงหน้าหมดทั้งจ านวนแล้ว
นอกจากนี้ ยังช่วยลดความเสี่ยงในด้านราคาและคุณภาพสินค้าเนื่องจากบริษัทฯ เสนอซื้อแป้งมันฯ หมดทั้ง
จ านวนล่วงหน้า และช่วยกระตุ้นตลาดให้มีการแข่งขันรับซื้อหัวมันสดจากเกษตรกร ท าให้ราคาหัวมันสดที่
เกษตรกรขายได้สูงขึ้น โดยราคาหัวมันสดในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2547 ในบางพื้นที่สูงถึงกิโลกรัมละ
1.33 บาท ในขณะที่ช่วงเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ที่กิโลกรัมละ 0.89 บาท
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2547 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและให้ด าเนินการต่อไปได้ตามที่กระทรวง
พาณิชย์เสนอการเปิดตลาดสินค้าเกษตร 22 รายการ (ใบยาสูบอีก 1 รายการ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ
กระทรวงการคลัง) ตามข้อผูกพันภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) ตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นไป ตามแนวทางที่ได้
ปฏิบัติมาในช่วงปี 2539-2547 โดยให้เป็นไปตามประการกระทรวงพาณิชย์ 4 ฉบับเดิมคือ ฉบับที่ 111 ฉบับที่
115 ฉบับที่ 117 และฉบับที่ 143 การก าหนดปริมาณโควตา อัตราภาษีในและนอกโควตาตามข้อผูกพันการ
เปิดตลาดในปี 2547 ภายใต้ความตกลงองค์การการค้าโลกรอบอุรุกวัยไปก่อน และเมื่อมีข้อผูกพันการเปิด