Page 172 -
P. 172

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


                                                                                                      13-51



                   โครงการฯ  ตามที่เสนอ  รวมทั้งอนุมัติงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการด าเนินงานตามวิธีที่กระทรวง

                   เกษตรและสหกรณ์ก าหนด  ในระยะเวลา 4 ปี (พ.ศ. 2548-พ.ศ. 2551) วงเงินรวม 4,426 ล้านบาท  โดย
                   เป็นงบประมาณที่ใช้เพื่อด าเนินโครงการฯ ในปี พ.ศ. 2548 เป็นเงิน 1,308 ล้านบาท  โดยเบิกจ่ายจากงบ

                   กลาง และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอตกลงในรายละเอียดกับส านักงบประมาณแล้วด าเนินการต่อไป

                   ได้ ส าหรับการบริหารโครงการฯ ในภาพรวม รวมตลอดถึงการจัดหาโคให้เกษตรกร ให้ใช้กลไกของบริษัทจด
                   ทะเบียนที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้จัดตั้งขึ้นแล้วตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2547

                   เรื่อง โครงการจัดตั้งบริษัท จ ากัด หรือนิติบุคคลเฉพาะกิจ  (Special  Purpose  Vehicle  :  SPV)  เพื่อ
                   สนับสนุนธุรกิจการเกษตร

                           วันที่ 16 พฤศจิกายน 2547 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอมติ

                   คณะกรรมการอ้อยและน้ าตาลทรายครั้งที่ 14/2547 วันที่ 18 ตุลาคม 2547 และครั้งที่ 15/2547 วันที่ 29
                   ตุลาคม 2547 ที่มีมติเห็นชอบการก าหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจ าหน่ายน้ าตาล

                   ทรายขั้นสุดท้าย  ฤดูการผลิต ปี 2546/2547 เป็นรายเขต 8 เขต (โดยเฉลี่ยราคาทั่วประเทศอยู่ที่ 503.94
                   บาทต่อตันอ้อย ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส.) และให้จัดหาเงินเพิ่มค่าอ้อยขั้นสุดท้าย ส าหรับฤดูการ

                   ผลิต ปี 2546/2547  ให้กับชาวไร่อ้อยในอัตราเดียวกันทั่วประเทศ ตันอ้อยละ 23.06 บาท  เพื่อให้ชาวไร่

                   อ้อยได้รับราคาอ้อยเฉลี่ยทั่วประเทศ ในราคา 580 บาทต่อตันอ้อย ณ  ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส.
                   และให้กองทุนอ้อยและน้ าตาลทรายกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร  (ธ.ก.ส.)

                   มาสนับสนุนเพิ่มเติมอีกในวงเงิน 1,490 ล้านบาท โดยให้ช าระเงินกู้คืนพร้อมกับภาระหนี้เดิมภายในปี พ.ศ.

                   2555 รวมทั้งก าหนดราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิต ปี 2547/2548 เป็นราคาเดียวทั่วประเทศ ที่ 620 บาทต่อ
                   ตันอ้อย ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส.  และก าหนดผลตอบแทนการผลิตและจ าหน่ายน้ าตาลทราย

                   เป็นรายเขต 9 เขต  โดยอิงกับการก าหนดราคาอ้อยที่ ซี.ซี.เอส.  เฉลี่ยของแต่ละเขตและยึดหลักการตาม

                   ระบบแบ่งปันผลประโยชน์ และให้ยกเว้นเงินเรียกเก็บจากราคาอ้อยขั้นต้น ฤดูการผลิต ปี 2547/2548 และ
                   เลื่อนการช าระหนี้เฉพาะในส่วนของเงินต้นที่ชาวไร่อ้อยจะต้องช าระให้แก่ ธ.ก.ส.  ในฤดูการผลิตปี

                   2547/2548 ซึ่งจะครบก าหนดช าระในวันที่ 31 พฤษภาคม 2548 ออกไปก่อน  และให้ใช้เงินกองทุน ฯ
                   ส ารองจ่ายช าระดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่ ธ.ก.ส. ในวันที่ 1  มิถุนายน 2548 ทั้งนี้ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับ

                   ข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ไปประกอบการด าเนินการด้วย และให้ปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ

                   วันที่ 22 กรกฎาคม 2546  เรื่อง การแก้ไขปัญหาราคาอ้อยและน้ าตาลทรายทั้งระบบ ข้อ 2.3.2 จากเดิม
                   ความว่า  "...และตั้งแต่ฤดูการผลิตปี 2546/2547 ถึงปี 2550/2551  ให้มีการหักเงินค่าอ้อยส่วนที่สูงกว่า

                   580 บาท/ตัน (ที่ 10 C.C.S.)  โดยใช้ราคาของเขตค านวณราคาอ้อยที่ราคาต่ าสุดเป็นเกณฑ์ในการก าหนดอัตรา
                   เรียกเก็บเข้ากองทุนฯ เช่นกัน" เป็น "...และตั้งแต่ฤดูการผลิตปี 2547/2548 ถึงปี 2550/2551  ให้มีการหัก

                   เงินค่าอ้อยส่วนที่สูงกว่า 620 บาท/ตัน (ที่ 10 C.C.S.)  โดยใช้ราคาของเขตค านวณราคาอ้อยที่ราคาต่ าสุด

                   เป็นเกณฑ์ในการก าหนดอัตราเรียกเก็บเข้ากองทุนฯ เช่นกัน"
   167   168   169   170   171   172   173   174   175   176   177