Page 16 -
P. 16

โครงการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้านการเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


                                                                                                      11-11


                           วันที่ 23 มิถุนายน 2535 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ด าเนินการ

                   จัดหาปุ๋ยเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอในครั้งนี้ เป็นกรณีพิเศษ โดยไม่
                   ต้องน ามติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการจัดหาปุ๋ยช่วยเหลือเกษตรกรเมื่อวันที่ 17  มีนาคม 2535  มาใช้บังคับ

                   ส าหรับการจัดซื้อปุ๋ยเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในโอกาสต่อไป  ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวง

                   พาณิชย์ด าเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่  17  มีนาคม 2535  โดยเคร่งครัดด้วย กับให้กระทรวง
                   เกษตร และสหกรณ์ยืมเงินจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร เพื่อจัดหาปุ๋ยจ าหน่ายให้เกษตรกร จ านวน 400

                   ล้านบาท ก าหนดช าระคืนภายในระยะเวลา 6  เดือน  โดยไม่เสียดอกเบี้ยและให้คณะกรรมการกองทุน
                   สงเคราะห์เกษตรกรควบคุมดูแลในเรื่องนี้ด้วย และมอบหมายให้องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) เป็นผู้

                   จัดจ าหน่ายปุ๋ย จ านวน 80,000  ตัน ให้แก่เกษตรกร ส าหรับค่าใช้จ่ายในการจ าหน่ายปุ๋ยเคมี ให้เหมาจ่าย

                   เป็นค่าบริการ ค่าโกดัง ค่าประกันภัยและค่ากรรมการขนขึ้น รถตันละไม่เกิน 250 บาท ส่วนค่าขนส่งปุ๋ยให้
                   ถึงมือเกษตรกรและอื่นๆ  ให้เป็นไปตามจ่ายจริงที่ส านักงานตรวจเงินแผ่นดินตรวจรับรองแล้ว ทั้งนี้

                   ไม่เกินตันละ 250 บาท และให้จ าหน่ายปุ๋ยเคมีในราคาที่จัดซื้อได้และให้จ าหน่ายเป็นเงินสด โดยค่าใช้จ่ายส าหรับการ
                   จ าหน่ายปุ๋ยและค่าขนส่งให้เกษตรกรนั้น  ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอคณะกรรมการนโยบายและ

                   มาตรการช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อขออนุมัติจ่ายขาดจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในวงเงินไม่เกิน

                   40  ล้านบาท  และให้ควบคุมดูแลการด าเนินงานของ อตก. ในเรื่องนี้โดยใกล้ชิด  เพื่อให้สามารถจ าหน่าย
                   ปุ๋ยเคมีแก่เกษตรกรได้ทัน ตามก าหนดเวลาและเงื่อนไขโดยเรียบร้อยถูกต้อง

                           วันที่ 21 กรกฎาคม 2535 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้น าเข้าเมล็ดถั่วเหลืองเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลน

                   จ านวน 80,000 ตัน โดยให้มีการน าเข้าให้เสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายน 2535 และเห็นชอบหลักการ ตามที่สมาคมโรงงาน
                   สกัดและกลั่นน้ ามันร าข้าว - ถั่วเหลือง - เมล็ดฝ้าย เสนอบริจาคเงินตามอัตราที่คณะกรรมการนโยบายอาหารก าหนดขึ้น

                   โดยใช้วิธีเดียวกับการค านวณค่าธรรมเนียมพิเศษ (SURCHARGE) เพื่อรักษาระดับราคาถั่วเหลืองหน้าโรงงานให้อยู่ใน
                   ระดับกิโลกรัมละ 8.50  บาท  โดยประมาณเงินบริจาคดังกล่าวให้น าเข้ากองทุนเพื่อพัฒนาการผลิตถั่วเหลืองตาม

                   ระเบียบที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ กับเห็นชอบร่างระเบียบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าด้วยการบริหาร

                   กองทุนเพื่อพัฒนาการผลิตถั่วเหลือง พ.ศ. 2535  โดยให้เพิ่มอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศร่วมเป็นกรรมการใน
                   คณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อพัฒนาการผลิตถั่วเหลือง และให้ส่งส านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา

                   โดยด่วน แล้วด าเนินการต่อไปได้ และเห็นชอบตามมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายถั่วเหลืองและพืชน้ ามันอื่นของ
                   แผนพัฒนาการผลิตถั่วเหลืองส าหรับวงเงินงบประมาณให้ส านักงบประมาณรับไปพิจารณาต่อไป

                           วันที่ 20 สิงหาคม 2535 ได้มีพระราชกฤษฎีกาก าหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการเป็นเกษตรกร

                   โดยก าหนดคุณสมบัติไว้ในมาตรา 3  ดังนี้
                                  “ มาตรา 3 บุคคลซึ่งอยู่ในหลักเกณฑ์และเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้ให้ถือว่าเป็น

                   เกษตรกร

                                         (1)  ผู้ยากจน  ซึ่งหมายถึง ผู้มีรายได้ไม่สูงกว่าอัตรารายได้ที่คณะกรรมการ
                   ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมก าหนดรายได้ตาม (1)    ให้หมายความรวมถึงสิทธิ  หรือประโยชน์อื่นที่

                   สามารถค านวณเป็น  ตัวเงินได้ด้วย
   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21